แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นนายวงแชร์ตกลงกับจำเลยที่ 1 และ น. ให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกวงเปียแชร์นำเงินไปชำระค่าเสียหายอันเกิดจากการที่โจทก์ที่ 2 ทำละเมิดต่อ น. โดยโจทก์ทั้งสองรับจะเป็นผู้ส่งเงินแชร์วงดังกล่าว และแชร์วงอื่นอีกแทนจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกวงด้วยนั้น ข้อตกลงเช่นนี้เป็นการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกันค่าเสียหายที่โจทก์ที่ 2 ทำละเมิดต่อ น. เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมื่อชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด กรณีย่อมไม่อาจบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวได้
หนี้เงินแชร์อันเกิดจากการที่โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นนายวงแชร์ได้ออกแทนจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกวงไปนั้นเป็นหนี้เงิน โจทก์ทั้งสองมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นนายวงแชร์ จำเลยทั้งสองเข้าเล่นแชร์กับโจทก์ ในการเล่นแชร์ดังกล่าวมีข้อตกลงกันด้วยว่า หากลูกวงคนใดเปียได้แล้วไม่ส่งเงินแชร์ โจทก์จะต้องรับผิดชอบชดใช้เงินแชร์แทน ต่อมาจำเลยทั้งสองเปียแชร์ได้รับเงินแชร์ไปแล้วหลังจากนั้นจำเลยทั้งสองได้ส่งเงินแชร์ให้โจทก์ถึงงวดวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๗ จำเลยก็ผิดนัดไม่ส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ เมื่อนับแต่งวดที่จำเลยทั้งสองผิดนัดดังกล่าวถึงงวดสุดท้ายรวม ๖ เดือนเป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท โจทก์ทวงถามก็ไม่ชำระ โจทก์จึงต้องชำระเงินให้ลูกวงที่เปียแชร์ได้แทน ทำให้โจทก์เสียหาย ขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๗ ถึงวันฟ้องเพียง ๗ เดือน ๑๕ วัน คิดเป็นเงิน ๒๘๑.๒๕ บาท รวมเป็นเงิน ๖,๒๘๑.๒๕ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยได้เล่นแชร์กับโจทก์และได้เปียแชร์ไปแล้วจริง แต่ต่อมาโจทก์รับโอนหนี้แชร์พิพาทไปเป็นของโจทก์ จำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนัดจึงไม่ต้องชำระเงินแชร์แก่โจทก์ และที่โจทก์ฟ้องขอคิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๖,๐๐๐ บาทนับแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๗ ถึงวันฟ้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จะคิดในต้นเงิน ๖,๐๐๐ บาท ถึงวันฟ้องได้เพียง ๑ เดือนเท่านั้นขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐๐ บาท
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้โจทก์ทั้งสองใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนจำเลยทั้งสอง ๔๐๐ บาท
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาซึ่งศาลฎีกาจักต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองเล่นแชร์กันมีผู้เล่นทั้งหมด ๒๓ มือมือละ ๕๐๐ บาท โจทก์ทั้งสองเป็นนายวง และจำเลยทั้งสองเป็นลูกวงเล่นจำนวน ๒ มือ จำเลยทั้งสองเปียแชร์แล้วทั้งสองมือและส่งเงินแชร์ถึงงวดวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๗ แล้วไม่ส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์อีกจนถึงงวดสุดท้ายรวม ๖ เดือน เป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท และโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ยังเล่นแชร์มือละ ๑,๐๐๐ บาท อีก ๑ วง เมื่อวันที่๓ ธันวาคม ๒๕๒๗ นางสาวนพมาศ บุญอิ่ม บุตรสาวจำเลยทั้งสองเช่าซื้อรถยนต์ปิกอัพ ๑ คัน จากห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรีและนำมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านจำเลยทั้งสอง โจทก์ที่ ๒ ขึ้นไปสตาร์ทรถยนต์ดังกล่าวเป็นเหตุให้รถแล่นไปชนผนังห้องน้ำได้รับความเสียหาย โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ ๑ กับนางสาวนพมาศได้นำรถดังกล่าวไปเปลี่ยนใหม่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยธาดาลพบุรีคิดค่าเสียหายในการเปลี่ยนรถ โจทก์ทั้งสองยอมชดใช้ค่าเสียหายแทนนางสาวนพมาศแต่เนื่องจากโจทก์ทั้งสองไม่มีเงินพอ โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ ๑จึงตกลงให้จำเลยที่ ๑ เปียแชร์วงมือละ ๑,๐๐๐ บาท ไปชำระค่าเสียหายดังกล่าวและโจทก์จะเป็นผู้ส่งเงินแชร์วงดังกล่าวและแชร์วงมือละ ๕๐๐ บาท คดีนี้แทน มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองที่จะต้องวินิจฉัยว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือหักกลบลบหนี้
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าเสียหายที่โจทก์ที่ ๒ ทำละเมิดต่อนางสาวนพมาศจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจึงไม่อาจบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวได้ จำเลยทั้งสองจึงต้องชำระเงินแชร์ที่โจทก์ทั้งสองได้ออกแทนไปเป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท และหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เงิน โจทก์ทั้งสองมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด คดีนี้เป็นการเล่นแชร์ จำเลยทั้งสองต้องส่งเงินแชร์ให้แก่โจทก์ทั้งสองเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสองผิดนัดตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๗ จึงต้องคิดดอกเบี้ยในต้นเงิน๑,๐๐๐ บาท ของแต่ละงวดถึงวันฟ้อง คิดเป็นดอกเบี้ย ๑๘๗.๕๗ บาทที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ทั้งสองจำนวน ๖,๑๘๗.๕๗ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน ๖,๐๐๐ บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ.
