แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาแบ่งมฤดกกัน ในวันส่งมอบเอกสารกู้หนี้ให้แก่โจทก์ตามข้อตกลงกันนั้น จำเลยได้ตกลงรับรองว่าถ้าลูกหนี้ตามเอกสารกู้นั้นไม่ชำระหนี้จำเลยยอมรับผิดชอบดังนี้ ข้อรับรองเช่นนี้ต้องผูกมัดจำเลย ถึงแม้ว่าในตัวสัญญาแบ่งมฤดกจะไม่มีข้อรับรองเช่นนี้ไว้ก็ตาม
ย่อยาว
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาแบ่งมฤดกของ ส.ฝ่ายโจทก์ได้ส่วนแบ่งเป็นเงินสดบ้างหนังสือกู้หนี้นั้นบ้าง ครั้นแรกจำเลยผู้ครอบครองหนังสือกู้ได้มอบหนังสือกู้ให้โจทก์โดยตกลงรับรองว่า ถ้าลูกหนี้ปฏิเสธไม่ยอมชำระหนี้ จำเลยยอมรับผิดชอบ การมอบเอกสารกู้ครั้งที่ ๒ นั้นได้ทำบันทึกติดต่อกับการส่งมอบครั้งแรก แต่ไม่ได้ระบุการรับผิดชอบของจำเลยผู้ส่งมอบ บันทึกทั้ง ๒ คราวนี้สลักหลังบนสัญญาแบ่งมฤดก ส่วนบันทึกกการส่งมอบครั้งที่ ๓ นั้นมีคำรับรองว่า ถ้าหนี้สินเหล่านั้นมีการชำระหนี้แก่จำเลยแล้วจำเลยยอมรับผิด ส่วนในตัวสัญญาแบ่งมฤดกนั้นไม่มีข้อตกลงรับรองอย่างไรในหนังสือกู้ที่โจทก์รับไป
ศาลฎีกาตัดสินว่า การที่จำเลยให้คำรับรองขณะส่งมอบเอกสารกู้นั้นจะเป็นข้อผูกมัดจำเลยเพียงไรนั้น เห็นว่าข้อรับรองของจำเลยผูกมัดจำเลยได้ และการส่งมอบครั้งที่ ๑ และ ๒ ต่อเนื่องกันมุ่งหมายจะให้รับรองเช่นเดียวกัน แต่ในครั้งที่ ๓ กำหนดความรับผิดชอบต่างกัน ไม่มีทางจะคิดเห็นว่าคู่กรณีมุ่งหมายเช่นเดียวกับครั้งที่ ๑ และ ๒ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์โดยยืนตามศาลชั้นต้นว่าให้จำเลยรับผิดในสัญญากู้หนี้ที่ได้ส่งมอบครั้งที่ ๑ และ ๒ นั้น