แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้ง 5 คนต่างมีอาวุธตามหาบุตรสาวของจำเลยที่ 2 ไปถึงที่พักของชายแล้วจะเข้าคค้นหาบุตรสาวในที่พักนั้น ชายเจ้าของที่พักไม่ยอมให้เข้าไป จำเลยที่ 2 ขืนจะเข้าไปให้ได้ ชายเจ้าของที่พักจึงเอาขวานเงื้อจะฟันจำเลยที่ 2 เอาหอกค้ำไว้ชายนั้นจะฟันซ้ำอีก จำเลยที่ 1 จึงใช้ปืนยิงชายนั้นตายดังนี้ จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ากระทำโดยป้องกันไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยสมคบกันฆ่านายเจียวแพรัตน์ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยต่อสู้ว่า นายเจียวฉุดคร่าห์บุตรสาวของจำเลยที่ ๒ ไป พวกจำเลยติดตามไปจะค้นในที่พัก นายเจียวไม่ยอม กลับเอาขวานฟันจำเลยที่ ๒ ล้มลง แล้วจะฟันซ้ำ จำเลยที่ ๑ จึงเอาปืนยิงนายเจียว เพื่อป้องกันชีวิตจำเลยที่ ๒ ส่วนจำเลยอื่นเพียงแต่ไปด้วยกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ผิดตามมาตรา ๒๔๙ จำเลยที่ ๒ ผิดตามมาตรา ๒๕๔ จำเลยอื่นให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียงวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๑ ผิดตามมาตรา ๒๔๙ ประกอบด้วยมาตรา ๕๓ ฐานป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยทุกคนมีปืนบ้าง มีอาวุธอย่างอื่นบ้าง ได้ติดตามไปกับนายกันจำเลยที่ ๒ เพื่อไปถามหาบุตรีจำเลยที่ ๒ ครั้นไปถึงที่พักซึ่งนายเจียวอยู่ นายกันจำเลยที่ ๒ จะเข้าไปในห้องที่พัก นายเจียวไม่ยอม จึงเกิดเรื่องขึ้น ศาลนี้เห็นว่าจำเลยที่ ๒ ไม่มีอำนาจโดยพละการจะฝ่าฝืนเข้าไปในห้องที่พักของเขา นายเจียวห้ามปรามแล้ว ก็ยังจะขืนเข้าไปให้ได้ การที่จำเลยที่ ๑ เอาปืนยิงนายเจียวเพราะเหตุดังกล่าว เป็นเรื่องข่วยเหลือนายกันจำเลยที่ ๒ ทำร้ายนายเจียว หาใช่เป็นการการป้ผงกันดังที่แก้ตัวไป
จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น