คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตกลงขายข้าวสารให้โจทก์ 400 กระสอบราคากระสอบละ 11.17 บาทและรับเงินมัดจำไว้แล้ว 200 บาท จำเลยให้การรับว่าได้ตกลงขายข้าวสารให้โจทก์ตามที่กล่าวจริง แต่โจทก์ไม่ชำระเงินและรับข้าวไปในวันที่กำหนด ดังนี้วันที่ตกลงให้รับข้าวเป็นข้อที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นมาใหม่และโจทก์มิได้รับ จำเลยจึงต้องนำสืบก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยว่าตกลงขายข้าวสารให้โจทก์ ๔๐๐ กระสอบ ราคากระสอบละ ๑๑ บาท ๑๗ สตางค์ และจำเลยรับมัดจำไว้จากโจทก์แล้ว ๒๐๐ บาท ครั้นโจทก์ไปขอรับข้าวสารโจทก์ไม่ยอมขายให้ ทำให้โจทก์ต้องเสียหายและขาดผลกำไรไปขอให้ชดใช้ จำเลยรับว่าได้ตกลงขายข้าวสารตามจำนวนและราคาที่กล่าว และรับเงินมัดจำไว้จริง แต่มีข้อตกลงกันว่าโจทก์จะชำระราคาและรับข้าวไปในวันที่ ๙ กันยายน ๒๔๘๓ โจทก์ไม่ปฏิบัติตามกำหนดจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาเองศาลชั้นต้นกะประเด็นให้จำเลยนำสืบก่อนว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา และเมื่อพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามฟ้อง.
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่แก้เพราะไม่ต้องให้จำเลยเสียดอกเบี้ยในเงินที่ต้องชำระ.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมดังฎีกาจำเลย และในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น จำเลยให้การรับว่าได้ตกลงขายข้าวให้โจทก์ตามที่กล่าวจริง ต่อสู้ว่าโจทก์ผิดสัญญา เพราะไม่ได้รับข้าวไปในวันที่ ๙ กันยายน ๒๔๘๓ ตามที่จำเลยกล่าวว่าได้ตกลงกันไว้ ให้ไปรับข้าวสารในวันที่ ๙ กันยายนนั้น เป็นข้อที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นมาใหม่และโจทก์ไม่ได้รับในข้อนี้ ประเด็นจึงตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน ตามที่ศาลชั้นต้นกะประเด็นไปเช่นนั้นถูกต้องแล้ว จึงพิพากษายืน

Share