คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5976/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาขอให้สั่งคืนของกลางให้แก่จำเลย ในทำนองว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่ควรริบของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้โดยเพียงแต่ปรับบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องเท่านั้นซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ความผิดฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานก่นสร้างแผ้วถางป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 11,73 วรรคหนึ่ง และมาตรา 54,72 ตรี วรรคหนึ่ง เป็นการกระทำความผิดในคราวเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด เมื่อโทษดังกล่าวต่างมีระวางโทษเท่ากันจึงให้ลงโทษฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องและเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ไม่ได้ฎีกาด้วยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันแผ้วถาง ขุดและทอนไม้ ทำไม้ โดยการตัด ฟันเจาะ ขุด ทอนเป็นท่อนและชักลาก และร่วมกันครอบครัวไม้อันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองและยึดไม้อันยังมิได้แปรรูปดังกล่าวรถยนต์บรรทุกหกล้อ 1 คัน เลื่อยโค้ง 1 ปื้น รอกชักพร้อมโซ่ 1 อัน ซึ่งใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 11, 54, 55, 69,72 ตรี, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ริบของกลางจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง, 54, 72 ตรี วรรคหนึ่ง, 73 วรรคหนึ่ง, 69, 69 วรรคสองประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานก่นสร้างแผ้วถาง อันเป็นการทำลายป่า จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท ฐานทำไม้หวงห้ามจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ40,000 บาท ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 30,000 บาทรวมจำคุกคนละ 4 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 75,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี 3 เดือน และปรับคนละ 37,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสองไว้ 1 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณ-ประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งสองเห็นสมควรเป็นเวลา 20 ชั่วโมงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต มิใช่ความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้สั่งคืนรถยนต์บรรทุกหกล้อของกลางให้แก่จำเลยที่ 1 ในทำนองว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่ควรริบรถยนต์บรรทุกของกลางเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง, 54,72 ตรี วรรคหนึ่ง, 73 วรรคหนึ่ง, 69, 69 วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 เพียงแต่ปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ให้ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้จำเลยที่ 1 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยที่ 1 มานั้นไม่ชอบ

อนึ่ง ความผิดฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานก่นสร้างแผ้วถางป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 73 วรรคหนึ่งและมาตรา 54, 72 ตรี วรรคหนึ่ง เป็นการกระทำความผิดในคราวเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด แต่ความผิดฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานก่นสร้างแผ้วถางป่ามีระวางโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องและเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ที่ไม่ได้ฎีกาด้วยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225”

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและก่นสร้างแผ้วถางป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 73 วรรคหนึ่งและมาตรา 54, 72 ตรี วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษตามมาตรา 11, 73 วรรคหนึ่ง จำคุกคนละ2 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท เมื่อรวมกับโทษฐานมีไม้อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองแล้วให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 4 ปี และปรับคนละ 70,000 บาท เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 35,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6

Share