แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาว่า โจทก์เป็นคนยากไร้ซึ่งต้องการสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยหรือไม่ เป็นปัญหาที่อยู่ในประเด็นข้อพิพาทซึ่งศาลกำหนดไว้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณดังโจทก์กล่าวอ้างหรือไม่
ตามคำฟ้อง โจทก์กล่าวอ้างแต่เพียงว่าจำเลยบอกปัดไม่ให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ในเวลาที่โจทก์ยากไร้และยังสามารถจะให้ได้เท่านั้น ที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงนั้นจึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น และมิใช่ข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๗๓๒ ตำบลบึงทองหลางอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ ๕๐ ไร่ ราคาประมาณ ๗๕๐,๐๐๐ บาท และได้จดทะเบียนยกให้แก่จำเลยโดยเสน่หาเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๒๑ ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี โดยตกลงกันที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอธัญบุรี เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๒ ให้โจทก์มีสิทธิเก็บกินไปตลอดชีวิตแต่จำเลยไม่ยอมให้โจทก์เก็บกิน ทั้งไม่ยอมให้เงินและสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงชีพแก่โจทก์ซึ่งตกเป็นคนยากไร้และจำเลยยังสามารถให้โจทก์ได้ แต่ไม่ให้ จำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ ขอให้ศาลเพิกถอนคืนการให้ที่ดินโฉนดดังกล่าวกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามเดิม หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทโจทก์ขายให้แก่จำเลยซึ่งเป็นหลาน แต่เลี่ยงค่าธรรมเนียม จึงจดทะเบียนเป็นการยกให้ จำเลยไม่เคยตกลงให้โจทก์เก็บกินตลอดชีวิตและไม่เคยประพฤติเนรคุณ โจทก์มีที่ดินหลายแปลงและเก็บค่าเช่าที่ดินเลี้ยงชีพ ส่วนจำเลยมีฐานะยากจน ไม่สามารถให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงดูโจทก์ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าโจทก์เป็นคนยากไร้ซึ่งต้องการสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยหรือไม่ เป็นปัญหาที่อยู่ในประเด็นข้อพิพาทซึ่งศาลชั้นต้นกำหนดไว้ว่า จำเลยประพฤติเนรคุณดังโจทก์กล่าวอ้างหรือไม่ ส่วนปัญหาตามฎีกาโจทก์ข้อต่อไปที่ว่า จำเลยได้หมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้อง โจทก์กล่าวอ้างแต่เพียงว่าจำเลยบอกปัดไม่ให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ในเวลาที่โจทก์ยากไร้และยังสามารถจะให้ได้เท่านั้นที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงนั้นจึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น และมิใช่ข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลล่าง ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน.