คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5940/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 2 มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่งมายกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา195 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 225 เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างกำหนดโทษจำเลยหนักเกินไป สมควรกำหนดโทษจำเลยให้เบาลง และเมื่อจำเลยที่ฎีกากับจำเลยที่มิได้ฎีกา กระทำผิดร่วมกันเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาแก้โทษตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีกัญชาแห้งจำนวน 21 แห่งหนัก 21.780 กิโลกรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 26, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบกัญชาของกลาง
จำเลยทั้งสองมิได้ให้การ ถือว่าจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคสอง, 76 วรรคสอง จำคุกคนละ 9 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ให้หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 6 ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า การตรวจค้นและยึดของกลางรวมทั้งการทำบันทึกการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เป็นการไม่ชอบ จึงรับฟังบันทึกการจับกุมตามเอกสารหมาย จ.3 ว่าจำเลยทั้งสองรับสารภาพไม่ได้นั้น ปัญหาข้อนี้จำเลยที่ 2 เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกา โดยมิได้ยกขึ้นต่อสู้มาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคหนึ่งประกอบด้วยมาตรา 225 อย่างไรก็ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้นสูงเกินไป เห็นสมควรกำหนดโทษจำเลยที่ 2 ให้เบาลง และเนื่องจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำผิดร่วมกัน เหตุสมควรกำหนดโทษจำเลยที่ 2 ให้เบาลง ดังกล่าวเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งได้ฎีกาด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 4 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share