แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 4 กับพวกสมคบกันบังอาจใช้ปืนยิงผู้เสียหาย แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยคนหนึ่งเป็นผู้ยิงศาลก็ลงโทษจำเลยผู้ยิงได้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนแต่ชั้นพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดเพราะวิวาทกันแล้วจึงมีการยิงกันขึ้น ไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงต่างกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง ๔ กับพวกที่ยังจับตัวไม่ได้สมคบกันบังอาจใช้ปืนยิงผู้เสียหาย ๒ นัด โดยมีเจตนาฆ่า โดยมีความพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย แต่หากมีเหตุอันพ้นวิสัยมาขัดขวางเสีย คือกระสุนปืนถูกในที่ไม่สำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษ.
จำเลยให้การปฏิเสธ กับตัดฟ้องว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม.
ศาลชั้นต้นฟังว่านายกรอเป็นผู้ยิงแต่ผู้เดียว พิพากษาลงโทษตามมาตรา ๒๔๙,๖๐ ส่วนนายแกร นายเมือง นายพันไม่มีความผิดให้ปล่อยตัวไป.
นายแกรจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
นายกรอจำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลืบคลุมและทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทุกคนสมคบกันใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย แม้จะไม่บรรยายว่าจำเลยคนใด ไม่เคลือบคลุม เพราะเป็นการกล่าวว่ากระทำผิดร่วมกัน หาจำต้องแยกการกระทำเป็นรายตัวบุคคลไม่ ทั้งข้อความที่โจทก์กล่าวในฟ้องมีครบถ้วนบริบูรณ์ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดี ส่วนที่จำเลยค้านว่าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนพิจารณาได้ความว่า เหตุเกิดเพราะวิวาทกันแล้วจึงมีการยิงกันขึ้น ต้องยกฟ้องนั้นศาลฎีกาเห็นว่าไม่เรียกว่าต่างกัน เพราะข้อเท็จจริงแห่งประเด็นที่โจทก์กล่าวหามิได้เปลี่ยนแปลงไป นอกจากได้ความว่ามีการวิวาทกันอยู่ก่อนการพยายามฆ่าเท่านั้น ซึ่งเป็นคนละส่วน จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์