แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือขอให้บังคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย(อ้างฎีกาที่ 956/2502)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าต่อไปอีก มีกำหนด 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้ ถ้าโจทก์ขืนให้จำเลยออกจากตึกพิพาทก่อนครบอายุการเช่า 3 ปี จำเลยต้องเสียหาย จึงฟ้องแย้งว่า ถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่าก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่า ใช้ค่าขนย้ายและเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้รับฟ้องแย้ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งจะต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรค 3 และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 มีเงื่อนไขคือ ขอให้บังคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยที่ 1 ถูกศาลพิพากษาให้ขับไล่ออกจากตึกพิพาท ดังนั้น ฟ้องแย้งของจำเลยจะพิจารณารวมกับฟ้องเดิมไม่ได้ จนกว่าศาลจะพิพากษาขับไล่จำเลยเสียก่อนทั้งนี้ตามฎีกาที่ 956/2502
จึงพิพากษายืน