คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077 (2) เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดผิดนัดชำระหนี้ ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดให้รับผิดชำระหนี้ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการเลิกห้างหุ้นส่วนหรือล้มละลายก่อนหรือจะต้องปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนจัดการซึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยที่ ๑ ว่าจ้างโจทก์ปูพื้นห้องด้วยกระเบื้องยางแล้วค้างชำระเงินอยู่เป็นจำนวน ๓๐,๑๗๘ บาท จึงขอให้บังคับให้จำเลยชำระ
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่เคยว่าจ้างโจทก์ จำเลยที่ ๒ เป็นเพียงผู้แสดงเจตนาแทนจำเลยที่ ๑ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองพิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อกฎหมายว่าจำเลยที่ ๒ บุคคลตามกฎหมาย จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๗๗ (๒) เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดผิดนัดชำระหนี้ ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดให้รับผิดชำระหนี้ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการเลิกห้างหรือล้มละลายก่อน หรือจะต้องปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้ ดังนั้น จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑
พิพากษายืน

Share