คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5896/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ว่าจ้างจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้าผิดแบบ โจทก์ก็ส่งเสื้อไปให้จำเลยทำการแก้ไขโดยขยายระยะเวลาให้จำเลยส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ส่งไปให้แก้ไข จำเลยได้แก้ไขเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ส่งกลับคืนไปให้โจทก์ภายในกำหนด 10 วัน เพราะโจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างตัดเย็บเสื้อให้แก่จำเลยดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะจำเลยมีสิทธิไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ได้ จนกว่าโจทก์จะชำระสินจ้างหรือขอปฏิบัติการชำระสินจ้าง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยตัดเย็บเสื้อแจกเกตตามแบบโดยตัวเสื้อด้านนอกเป็นผ้าหน้ามัน ส่วนด้านในเป็นผ้าหน้าหยาบ ต่อมาจำเลยตัดเย็บผิดแบบ โจทก์จึงขอให้จำเลยแก้ไขให้ถูกต้องตามแบบภายใน 10 วัน นับแต่วันที่นำเสื้อกลับไปแก้ไข เมื่อครบกำหนดจำเลยมิได้แก้ไขและมิได้ส่งมอบเสื้อดังกล่าวให้แก่โจทก์ เป็นการผิดสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 254,470.31 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ตัดเย็บเสื้อผิดแบบ และเมื่อจำเลยส่งมอบเสื้อที่ตัดเย็บแก่โจทก์แล้ว โจทก์ได้ขอให้จำเลยช่วยแก้ไขให้ใหม่โดยตกลงจะให้ค่าจ้างแก้ไขเสื้อแก่จำเลยเพิ่มเติมจากสินจ้างเดิม จำเลยได้แก้ไขเสื้อเรียบร้อยแล้วและได้แจ้งให้โจทก์ส่งเงินค่าจ้างมาให้จำเลย แต่โจทก์ไม่ยอมส่งมาให้และไม่ยอมชำระเงินค่าจ้างทั้งเก่าและใหม่ จำเลยจึงใช้สิทธิยึดหน่วงเสื้อไว้ จำเลยมิได้กระทำผิดสัญญา ค่าเสียหายก็เกินความจริง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาว่าจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นสัญญาต่างตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 จำเลยมีสิทธิไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้ว ให้แก่โจทก์ จนกว่าโจทก์จะชำระสินจ้างหรือขอปฏิบัติการชำระสินจ้าง ดังนั้น การที่จำเลยไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ เพราะโจทก์ไม่ยอมชำระสินจ้างให้แก่จำเลย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นเรื่องค่าเสียหาย
พิพากษายืน.

Share