คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แม้จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตนเอง ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีก จำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การรับสารภาพ
โจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพ จำเลยไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุลงโทษตามาตรา ๒๘๘, ๖๙ จำคุก ๓ ปี จำเลยอายุไม่ถึง ๒๐ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ คง จำคุก ๒ ปี ลดโทษฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑ ปี
โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลไม่ควรยกเรื่องป้องกันตัวขึ้นวินิจฉัย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้มีข้อหาในความผิดที่มีอัตราโทษหนัก ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงตาม ป. วิ. อ. มาตรา ๑๗๖ หากโจทก์สืบพยานไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงดังฟ้อง ศาลก็มีอำนาจยกฟ้องของโจทก์เสียได้ ไฉนเมื่อได้ความว่าจำเลยกระทำการโดยป้องกันตนเอง ศาลจึงจะยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยไม่ได้
ส่วนข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำโดยป้องกันตัวหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไปทวงเงินนายแสนที่เป็นหนี้อยู่ นายแสนกลับต่อยจำเลย แล้วยังติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมจำเลยวิ่งหนีแล้วยังไล่ตามไปทำร้ายอีก และจำเลยเป็นเด็กอายุเพียง ๑๙ ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่า ไม่มีทางสู้แรงปะทะของนางแสนได้ และจะหนีให้รอดพ้นก็ไม่ได้ จึงได้หันมาใช้มีดแทงไป ๑ ที เท่านั้น บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า นายแสนจึงถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันตนเองพอสมควรแก่เหตุ
พิพากษายืน

Share