คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน ฯลฯโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นปืนของบุคคลอื่นมีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้องดังนี้ ข้อแตกต่างมิใช่ข้อสารสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่หรือไม่ซึ่งจำเลยรับแล้วว่ามีโดยมิได้รับอนุญาตจริง
ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนหาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหายจึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรามิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืน ยู.เอส.อามี่ ขนาด 11 มม. ใช้ยิงได้ 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่มีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานและกระสุน 11 นัด แมกกาซีน 2 อัน อันเป็นเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและบังอาจใช้อาวุธปืนนั้นยิงธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศไทย และเป็นการทำลาย ทำให้ธงชาติเสื่อมค่าธงชาตินี้เป็นของโรงเรียนวัดหนองลุมพุก ครูโรงเรียนได้เชิญประดิษฐ์ขึ้นอยู่บนยอดเสาหน้าโรงเรียนเป็นประจำ อันเป็นทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ กระสุนถูกผ้าธงชาติเสียหาย 2 แห่ง เป็นการทำให้เสียหายแก่ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 2490 มาตรา 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118, 358, 360 ริบของกลาง

จำเลยให้การว่ามีอาวุธปืนของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตจริงแต่ปืนมีทะเบียนเป็นของผู้มีชื่อ จำเลยนำทะเบียนมายื่นโจทก์ว่าเลขหมายปืนตรงทะเบียน ปืนของกลางจึงเป็นปืนมีทะเบียน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งปรับ 100 บาท และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118, 358, 360 ลงบทหนักมาตรา 360 จำคุก 1 ปี ปรับ 1,000 บาท รอการลงโทษมีกำหนด 3 ปี ปืนของกลางคืนเจ้าของ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 118, 358, 360 นอกนั้นยืน

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาว่าข้อหาฐานมีอาวุธปืนข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องขอให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฎีกาจำเลยนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานและกระสุน 11 นัด แมกกาซีน 2 อัน อันเป็นเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏทางพิจารณาว่าปืนของกลางเป็นปืนของบุคคลอื่น เป็นปืนมีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้องจริง เห็นว่าข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่เป็นข้อสารสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ประการใด เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่าจำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่จริงหรือไม่ ซึ่งจำเลยก็รับแล้วว่าจำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจริง ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้

ตามฎีกาโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยของโรงเรียนวัดหนองลุมพุก ทำให้ธงชาติไทยเสียหายจริงธงชาติไทยที่จำเลยยิงนี้ได้ความว่าเป็นธงที่ทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนเท่านั้น หาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนวัดหนองลุมพุกใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์แต่อย่างใดไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 หามีความผิดตามมาตรา 360 ไม่ และเชื่อว่าจำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรา มิได้เจตนาเหยียดหยามประเทศชาติ

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358ปรับ 300 บาท นอกนั้นยืน

Share