แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานฯลฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นปืนของบุคคลอื่น มีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้อง ดังนี้ ข้อแตกต่างมิใช่ข้อสารสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่หรือไม่ ซึ่งจำเลยรับแล้วว่ามีโดยมิได้รับอนุญาตจริง ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียน หาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่ จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหาย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรา มิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืน ยู.เอส.อามี่ ขนาด ๑๑ มม. ใช้ยิงได้ ๑ กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่มีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานและกระสุน ๑๑ นัด แมกกาซิน ๒ อัน อันเป็นเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และบังอาจใช้อาวุธปืนนั้นยิงธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศไทย และเป็นการทำลาย ทำให้ธงชาติเสื่อมค่า ธงชาตินี้เป็นของโรงเรียนวัดหนองลุมพุก ครูโรงเรียนได้เชิญประดิษฐ์ขึ้นอยู่บนยอดเสาหน้าโรงเรียนเป็นประจำ อันเป็นทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ กระสุนถูกผ้าธงชาติขาดเสียหาย ๒ แห่ง เป็นการทำให้เสียหายแก่ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ๒๔๙๐ มาตรา ๗,๗๒ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘, ๓๕๘, ๓๖๐ ริบของกลาง
จำเลยให้การว่ามีอาวุธปืนของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง แต่ปืนมีทะเบียนเป็นของผู้มีชื่อ จำเลยนำทะเบียนมายื่นโจทก์ว่าเลขหมายปืนตรงทะเบียน ปืนของกลางจึงเป็นปืนมีทะเบียน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งปรับ ๑๐๐ บาท และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘, ๓๕๘, ๓๖๐ ลงบทหนักมาตรา ๓๖๐ จำคุก ๑ ปี ปรับ ๑,๐๐๐ บาท รอการลงโทษมีกำหนด ๓ ปี ปืนของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘, ๓๕๘, ๓๖๐ นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่าข้อหาฐานมีอาวุธปืนข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฎีกาจำเลยนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนฯลฯ ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานและกระสุน ๑๑ นัด แมกกาซีน ๒ อัน อันเป็นเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่แต่ข้อเท็จจริงปรากฏทางพิจารณาว่า ปืนของกลางเป็นปืนของบุคคลอื่น เป็นปืนมีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้องจริง เห็นว่าข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่เป็นข้อสารสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ประการใด เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่าจำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจริง ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ตามฎีกาโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยของโรงเรียนวัดหนองลุมพุก ทำให้ธงชาติไทยเสียหายจริง ธงชาติไทยที่จำเลยยิงนี้ได้ความว่าเป็นธงที่ทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนเท่านั้น หาใช่เป็นทรัพย์โรงเรียนวัดหนองลุมพุกใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์แต่อย่างใดไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๘ หามีความผิดตามมาตรา ๓๖๐ ไม่ และเชื่อว่าจำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรา มิได้เจตนาเหยียดหยามประเทศชาติ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๘ ปรับ ๓๐๐ บาท นอกนั้นยืน.