แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถาน กรณีถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร นอกจากจำเลยจะมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายแล้ว ยังมีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานตามมาตรา 365 (1)(2) ด้วยอีกสถานหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าไปในเคหสถานและทำร้ายร่างกายนางเง็กพวงเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ (๑) (๒), ๒๙๕, ๘๓
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามฟ้อง แต่ให้ลงบทหนักตามมาตรา ๓๖๕ ให้จำคุกคนละ ๓ เดือน และปรับคนละ ๕๐๐ บาท โทษจำคุกเห็นสมควรให้ยกเสีย คงบังคับโทษปรับสถานเดียว
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกเพราะไม่มีเจตนา พิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดเฉพาะฐานทำร้ายร่างกาย ตามมาตรา ๒๙๔ สถานเดียว พิพากษาให้ปรับจำเลยที่ ๑, ๒ คนละ ๓๐๐ บาท ลดมาตราส่วนให้โทษให้จำเลยที่ ๓ ซึ่งมีอายุ ๑๘ ปีลง ๑ ใน ๓ คงปรับ ๒๐๐ บาท ยกฟ้องจำเลยทั้งสามในข้อหาบุกรุก
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานบุกรุกด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถาน ถือได้ว่าเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันควร กรณีจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกอีกบทหนึ่ง
พิพากษาแก้ โดยให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น เว้นแต่จำเลยที่ ๓ ซึ่งอายุ ๑๘ ปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖ คงให้ปรับเป็นเงิน ๓๐๐ บาท