คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลักจับปลาในโป๊ะของผู้อื่นมีผิดฐานลักจับปลาในที่หวงห้ามตาม ม.19 ลูกจ้างทำผิด พ.ร.บ.อากรค่าน้ำโดยเชื่อว่านายจ้างมีสิทธิทำได้โดยชอบนั้นไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความผิดใช้เครื่องมือของผู้อื่นที่เสีย+อาชญสบัตร์แล้ว จับสัตว์น้ำในที่หวงห้ามเป็นความผิดกะทงเดียว เมื่อศาลล่างลงโทษตามบทหนักแล้วโจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีผิดตาม+อื่นอีกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่าจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นลูกจ้างได้จับปลาในโป๊ะของ อ.โดยใช้เครื่องมืออวนของผู้อื่นแต่เจ้าของได้เสียค่าอาชญาบัตร์แล้ว
ศาลเดิมพิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๒ มี ผิดตาม ม.๑๙ ข้อ ๑ แห่ง พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ร.ศ.๑๒๐ พิพากษาให้ลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยควรมีผิดตามมาตรา ๑๘ ด้วย ฝ่ายจำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพราะเป็นแต่การละเมิดสิทธิเอกชนซึ่งเป็นความแพ่ง ส่วน ม.จำเลยว่าเป็นแต่เพียงลูกจ้างโดยเชื่อว่าจำเลยที่ ๑ ผู้เป็นนายจ้างมีสิทธิทำได้
ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จะฟังว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๑๘ ด้วยก็ดี คดีนี้ความผิดของจำเลยได้ทำไปในวาระเดียวกันเป็นกรรมอันเดียวกันแลโทษตาม ม.๑๙ ก็หนักกว่าโทษตาม ม.๑๘ ก็ต้องใช้บทที่หนักตาม ม.๗๐ แห่งกฎหมายอาญาลงโทษแก่จำเลย จึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึงข้อที่ว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๑๘ อีกด้วยหรือไม่
ส่วนฎีกาจำเลยนั้น เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิดในทางอาญาตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำแลที่ ม.จำเลยต่อสู้ว่าได้ทำไปในฐานเป็นลูกจ้างก็หาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share