แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบมอบฉันทะไม่ใช่หนังสือสำคัญตามกฎหมายอาญามาตรา 6(20) (อ้างฎีกาที่ 1143/2482) กรณีที่จำเลยทำผิดหลายกะทงศาลไม่จำต้องเรียกกะทงลงโทษเสมอไป
ย่อยาว
จำเลยทำหนังสือมอบฉันทะปลอมลายมือชื่อสามีจำเลยเพื่อขายฝากเรือนและห้องแถวในที่ดินโฉนดที่ ๒๗๙๘ ซึ่งมีชื่อสามีจำเลย และปลอมลายมือชื่อพยานในหนังสือมอบฉันทะนั้น นำไปแสดงต่อนางสมัคเพื่อขายฝากเรือนและห้องแถวเป็นเงิน ๖๐๐ บาท และพากันไปยังหอทะเบียนที่ดิน แล้วจำเลยนำใบมอบฉันทะปลอมไปแจ้งเท็จแก่เจ้าพนักงานทะเบียนที่ดิน เจ้าพนักงานหลงเชื่อจดข้อความเท็จลงในหนังสือขายฝากตามคำแจ้งของจำเลย แล้วจำเลยรับเงินจากนางสมัคทั้งนี้โดยจำเลยเจตนาทุจริตปิดความจริง เพื่อฉ้อโกงทรัพย์ของนางสมัค และเป็นการเสียหายแก่เจ้าพนักงานหอทะเบียนทีดิน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘,๒๒๓,๓๐๔ ให้รวมลงโทษจำเลย หนังสือมอบฉันทะริบ
โจทก์อุทธรณ์ ชอให้ลงโทษจำเลยตามมมาตรา ๒๒๔ และเรียงกะทงลงโทษศาลอุทธรณ์เห็นว่าใบมอบฉันทะไม่ใช่หนังสือสำคัญตามความหมายในมาตรา ๖(๒๐) ลงโทษตามมาตรา ๒๒๔ ไม่ได้ ส่วนข้อเรียงกะทงลงโทษเป็นดุลยพินิจของศาล จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าใบมอบฉันทะไม่ใช่หนังสือสำคัญตามบทวิเคราะห์ศัพย์มาตรา ๖(๒๐)ชอบแล้วดังฎีกาที่ ๑๑๔๓/๒๔๘๒ วินิจฉัยไว้ ส่วนที่ศาลล่างวางโทษจำเลยไม่เรียงกะทงนั้นการที่จำเลยทำความผิดต่างกรรมต่างวาระศาลไม่จำต้องลงโทษจำเลยเรียงกะทงเสมอไป เพราะมาตรา ๗๑ ว่า ให้ลงโทษเรียงกะทงก็ได้ ไม่มีความบังคับให้ต้องเรียงกะทงลงโทษ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.