แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่ถือว่าคำรับสารภาพของจำเลยตรงตามฟ้องโจทก์โดยไม่มีข้อโต้แย้ง ฟังลงโทษได้ไม่ต้องสืบพยานโจทก์อีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีและกินน้ำตาลดองเมาอันมีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินเมาได้อย่างน้ำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จำเลยรับว่าได้ดื่มกินน้ำตาลดองเมา ซึ่งเป็นของจำเลยมีไว้โดยมิได้รับอนุญาตจริง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานกินสุราเถื่อนให้ปรับ ๑๔ บาท ส่วนข้อหาฐานมีสุราเถื่อนให้ยก
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำรับสารภาพของจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยรู้ว่าสุรานั้นผิดกฎหมาย เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การรับสารภาพของจำเลยมีข้อความว่า ” ข้าพเจ้าทราบฟ้องแล้ว รับสารภาพตามข้อหาว่า ตามวันเวลาที่กล่าวหา ข้าพเจ้าได้ดื่มกินได้ เช่นสุราตามกฎหมาย ซึ่งเป็นของข้าพเจ้ามีไว้ ๑ ไห ๘๐ เซนติลิตร โดยมิได้รับอนุญาตจริงตามฟ้อง ” ตามคำให้การดังนี้แสดงว่าจำเลยไม่โต้แย้งฟ้องโจทก์ประการใดเลย และฟ้องก็ปรากฏชัดว่าจำเลยบังอาจมีน้ำสุราโดยมิได้รับอนุญาต เมื่อคำรับของจำเลยตรงตามฟ้องแล้วเช่นนี้ โจทก์ก็ไม่จำเป็นต้องสืบพยานอัก ฟังลงโทษได้ทันที จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานกินและมีสุราเถื่อน ให้ปรับ ๒๐ บาท