แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นเสมียนสรรพกรนายอำเภอใช้ให้ไปเร่งรัดเงินอากรค่านาจากราษฎร ซึ่งถึงกำหนดชำระแล้วจำเลยไปเก้นเงินเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียดังนี้ ไม่มีผิดตาม ม. 135 และ ม.319 ข้อ 3 ม. 135 หมายถึงเจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินกรือทรัพย์ที่ไม่ควรเก็บหรือเก็บเสียไปกว่าที่ควรเก็บ
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นเสมียนสรรพากรประจำอำเภอ นายอำเภอได้ใช้ให้จำเลยไปเร่งรัดเงินอากรค่านาจากราษฎรรวม ๔๙ ราย ซึ่งค้างยังมิได้ชำระ จำเลยไปเก็บเงินอากรค่านาจากราษฎร ๑๓๒๓ บาท ๔๗ สตางค์ แล้วเอาเงินนั้นไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียโจทก์จึงขอให้ลงโทษตาม ม. ๑๓๕ แล ม. ๓๑๙ ข้อ ๓
ศาลฏีกาเห็นว่าเงินอากรจำนวนนี้ถึงกำหนดที่ต้องชำระเป็นเงินที่ควรเก็บอยู่แล้ว ม. ๑๓๕ หมายถึงเงินหรือทรัพย์ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดจะเก็บ แลก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยได้เก็บเงินเกินไปกว่าจำนวนที่ควรจะเก็บอย่างใดและเห็นว่าที่จะเป็นผิดตาม ม. ๓๑๙ ข้อ ๓ จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ไว้โดยฐานที่จำเลยมีหน้าที่หรือด้วยศิลปศาสตร์หรือในการค้าขายหรือด้วยกิจธุระของจำเล่ย แต่คดีไม่ได้ความดังกล่าวแล้วจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ที่พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์