คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลล่างทั้งสองตัดสินตรงกัน โดยฟังว่า จำเลยไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าว ตามประกาศของคณะกรมการจังหวัดแล้ว การที่จำเลยฎีกาอ้างว่า ตามประกาศการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่ออำเภอที่มีภูมิลำเนา จำเลยมีภูมิลำเนา+อำเภอหรือจังหวัดที่ข้าวอยู่นั้น+ไม่เป็นข้อสำคัญ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายเพ็ชร์จำเลยมีข้าวเปลือ ๗๘,๐๐๐ กิโลกรัม นายกลมจำเลยมี ๑๒,๐๐๐ กิโลกรัม แล้วไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อคณะกรมการอำเภอ ตามประกาสของคณะกรมการจังหวัด ซึ่งประกาศให้มีผู้มีข้าวตั้งแต่ ๑๐๐๐๐ กิโลกรัมขึ้นไปแจ้งปริมาณ
จำเลยให้การว่าไม่มีข้าวถึงจำนวนดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยมีข้าวดังฟ้อง และไม่แจ้งปริมาณต่อเจ้าพนักงานดังฟ้อง จึงลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฎีกาข้อแรกของจำเลยว่า ประกาศของคณะกรมการจังหวัดว่าให้ไปแจ้งต่อคณะกรมการอำเภอ ซึ่งตนมีภูมิลำเนา นายกลมจำเลยมีภูมิลำเนาในอำเภอบึงกานี จังหวัดหนองคาย จึงไม่มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามประกาศ นายเพ็ชรมีภูมิลำเนาในเขตตอำเภอสว่างดินแดน จังหวัดสกลนครจริง แต่โจทก์ก็ไม่ได้ว่านายเพ็ชรไม่ได้ไปแจ้งต่ออำเภอสว่างดินแดง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างทั้งสองฟังว่า จำเลยไม่ได้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามปรกาศนั้นแล้ว ฉะนั้น การที่จำเลยอ้างว่าอยู่นอกเขตต์อำเภอวานรนิวาศซึ่งมีข้าวอยู่ จึงไม่ใช่ข้อสำคัญ จึ่งพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share