แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายสองฉะบับ ศาลพิพากษายกฟ้องคดีเสร็จเด็ดขาดโดยเหตุว่า สัญญา 2 ฉะบับที่โจทก์อ้างไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรรับฟังเป็นพะยานหลักฐานไม่ได้ โจทก์ได้นำสัญญา 2 ฉะบับดังกล่าวให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดอากรแสตมป์เป็นการถูกต้องสมบูรณ์ตาม ก.ม. แล้ว จึงนำมาฟ้องใหม่ ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายเช่นเดียวกับคดีก่อน ดังนี้ คดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้รื้อร้องฟ้องใหม่อีกตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 148.
ย่อยาว
ความว่า โจทก์ในคดีนี้เคยฟ้องจำเลยในคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัยญาซื้อขาย ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า โจทก์อ้างและส่งเอกสารสัญญาสองฉะบับต่อศาล แต่ศาลเห็นว่าเอกสารฉะบับนั้น ปิดอากรแสตมป์ไม่บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากร ใช้เป็นพะยานหลักฐานในคดีไม่ได้ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญาตามฟ้องโจทก์ คดีโจทก์ไม่มีทางชนะ คดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
บัดนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีขึ้นใหม่ อ้างว่าโจทก์ผู้ทรงตราสารได้นำตราสารสัญญา ๒ ฉะบับ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดอากรแสตมป์เป็นการถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว จึงขอฟ้องใหม่ ขอให้บังคับจำเลยไปทำหนังสือซื้อขายที่ดินเช่นเดียวกับคดีแรก จำเลยตัดฟ้องว่า เป็นการซ้องซ้ำ ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการฟ้องซ้ำพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่เป็นการฟ้องซ้ำ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ฟ้องจำเลย ขอให้ศาลบังคับปฏิบัติตามสัญญา ๒ ฉะบับนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว ให้ยกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลอ้างว่าสัญญา ๒ ฉะบับที่โจทก์อ้างใช้เป็นหลักฐานในคดีไม่ได้ เพราะไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์นั้น เป็นแต่เพียงข้อวินิจฉัยของศาลในการรับฟังพะยานหลักฐาน นับเนื่องอยู่ในการดำเนินกระบวนพิจารณาความตามอำนาจของศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๘๕,๘๖ โดยศาลเห็นว่าเอกสารที่โจทก์อ้าง เป็นพะยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ ศาลจึงปฏิเสธไม่รับฟังเป็นพะยานหลักฐานนั้น การที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินคดีของตนโดยบกพร่องในการยื่น หรือเสนอพะยานหลักฐานจนเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องคดี จนคดีเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว แล้วจะยื่นฟ้องใหม่อ้างว่าในคราวนี้ได้เตรียมพะยานหลักฐานเพื่อเสนอใหม่โดยครบถ้วนแล้วนั้น คดีความก็หาความยุตติไม่ได้ มาตรา ๑๔๘ ป.ม.วิ.แพ่งได้บัญญัติห้ามไว้ในมาตรานี้ข้อความที่ว่าในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันนั้น เห็นว่าเหตุที่ศาลอาศัยในการรับฟังหรือชั่งน้ำหนักคำพะยานหลักฐานนั้น ย่อมต้องมีอยู่ทุกคดี เป็นเหตุอย่างเดียวกันที่ศาลจะต้องพิเคราะห์คดีของโจทก์จึงต้องห้ามมิให้รื้อร้องฟ้องใหม่อีก
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง