คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5753/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พินัยกรรมแบบธรรมดาซึ่งผู้ทำพินัยกรรมมิได้เขียนเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 การขูดลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลาย มือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น ทั้งนี้ตามวรรคสองของบทมาตราดังกล่าว เมื่อการตกเติมข้อความในพินัยกรรมไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวย่อมมีผลให้ข้อความที่ตกเติมเท่านั้นไม่ สมบูรณ์ ส่วนข้อความเดิมในพินัยกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อความที่ตกเติมจะเป็นข้อสาระสำคัญหรือไม่ก็มีผลเหมือนกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นโมฆะ
จำเลยทั้งสามให้การว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์ไม่ใช่ผู้สืบสันดานตามกฎหมายของนายซุ่นเฮงหรือวินัยไม่มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในมรดก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทของนายซุ่นเฮงหรือวินัย คงควร เฉพาะข้อความตอนท้ายพินัยกรรมข้อ ๑ ที่ว่า “กับที่ดินตามโฉนดที่ ๗๙๒ ตรงหลังบ้านออกไปประมาณ ๖ ตารางวาด้วยและยกที่ดินตาม น.ส.๓ เลขที่ ๘ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ ให้อีกด้วย” ข้อความตอนท้ายพินัยกรรมข้อ ๒ ที่ว่า “กับที่ดินตามโฉนดที่ ๗๙๒ ตรงหลังบ้านออกไปประมาณ ๖ ตารางวาด้วย” และข้อความตอนท้ายพินัยกรรมข้อ ๓ ที่ว่านั้นไม่สมบูรณ์คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทมีการตกเติมข้อความให้ผู้รับพินัยกรรมได้รับทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นจากเดิม คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า การตกเติมข้อความดังกล่าวจะมีผลทำให้พินัยกรรมฉบับพิพาทตกเป็นโมฆะหรือไม่ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยต้องกันว่าพินัยกรรมฉบับพิพาทชอบด้วยกฎหมาย คงไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ตกเติมเพราะไม่มีลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมกำกับไว้ โจทก์ฎีกาว่า การตกเติมข้อความที่จะทำให้ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ตกเติม จะต้องเป็นข้อความที่ไม่เป็นสาระสำคัญ ไม่ทำให้ผลแห่งพินัยกรรมเปลี่ยนแปลงไป แต่ข้อความที่ตกเติมในพินัยกรรมฉบับพิพาทมีผลทำให้พินัยกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พินัยกรรมฉบับพิพาทจึงตกเป็นโมฆะทั้งฉบับ ศาลฎีกาเห็นว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทเป็นพินัยกรรมแบบธรรมดาซึ่งผู้ทำพินัยกรรมมิได้เขียนเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕๖ การขูดลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน ซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น ทั้งนี้ ตามวรรคสองของบทมาตราดังกล่าว เมื่อการตกเติมข้อความในพินัยกรรมฉบับพิพาทไม่ได้ปฏิบัติตามบทมาตราดังกล่าวย่อมมีผลให้ข้อความที่ตกเติมเท่านั้นไม่สมบูรณ์ ส่วนข้อความเดิมในพินัยกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อความที่ตกเติมจะเป็นข้อสาระสำคัญหรือไม่ก็มีผลเหมือนกัน ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share