คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5722/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วม ได้ร่วมกันปลอมเอกสารใบรับสินค้าอันเป็นเอกสารสิทธิของบริษัท ก. แล้วปลอมลายมือชื่อบุคคลในร้าน ฟ. ลงในช่องผู้รับสินค้าเพื่อแสดงเป็นหลักฐานว่าร้าน ฟ. ได้รับสินค้าดังกล่าวแล้ว นำเอกสารที่ปลอมขึ้นไปแสดงต่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นนายจ้างเพื่อให้หลงเชื่อว่าร้าน ฟ.ได้รับสินค้าที่ทางโจทก์ร่วมรับขนส่งจากบริษัท ก. ไว้แล้วการกระทำของจำเลยทั้งสองล้วนแต่เป็นวิธีการเพื่อผลในการเอาทรัพย์สินไป ดังนั้น แม้การปลอมเอกสารกับการใช้หรืออ้างเอกสารปลอมต่างเป็นความผิดสำเร็จก็ตาม แต่ก็เป็นความผิดหลายบทต่อเนื่องโดยมุ่งเจตนาในความสำเร็จของความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยจึงมีความผิดหลายบท ต้องลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2532 จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของห้างฯ ส. นิยมทรานสปอรค์ต ได้ร่วมกันลักเอาทรัพย์ของบริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด ขณะอยู่ในความครอบครองของห้างฯ ส. นิยมทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นผู้รับจ้างขนสินค้าและเป็นนายจ้างของจำเลยทั้งสองกับพวกไปโดยทุจริตและเมื่อวันที่ 10มกราคม 2532 จำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันปลอมเอกสารใบรับสินค้าอันเป็นเอกสารสิทธิที่เป็นหลักฐานก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้องของบริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 ฉบับ โดยจำเลยกับพวกได้นำใบรับสินค้าทั้ง 2 ฉบับ มาปลอมลายมือชื่อบุคคลในร้านโฟโต้เฮ้าส์ลงในช่องผู้รับสินค้าเพื่อแสดงเป็นหลักฐานว่าร้านโฟโต้เฮ้าส์ได้รับสินค้าตามใบรับสินค้าดังกล่าวนั้นไว้แล้ว และเพื่อให้บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด ร้านโฟโต้เฮ้าส์ห้างฯ ส.นิยมทรานสปอร์ต และผู้อื่นที่พบเห็น หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารใบรับสินค้าที่ร้านโฟโต้เฮ้ส์ได้เซ์นรับสินค้าไว้แล้ว ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บริษัท โกดัก (ประเทศไทย)จำกัด ร้านโฟโต้เฮ้าส์ ห้างฯ ส.นิยมทรานสปอร์ต ผู้อื่น และประชาชนและต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2532 จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันนำใบรับสินค้าที่ทำปลอมขึ้นดังกล่าวไปใช้แสดงอ้างต่อนายเสถียร รัตนพิธาน เพื่อให้หลงเชื่อว่าร้านโฟโต้เฮ้าส์ได้รับสินค้าที่ทางห้างฯ ส. นิยมทรานสปอร์ต รัยขนส่งจากบรษัทโกดัก (ประเทศไทย) จำกัด ไว้แล้วอันเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายเสถียร รันพิธาน บริษัท โกดัก (ประเทศไทย)จำกัด ห้างฯ ส.นิยมทรานสปอร์ต ผู้อื่น และประชาชน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 335, 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525มาตรา 11 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบใบรับสินค้าของกลาง
จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีใหม่
ระหว่างการพิจารณา ห้างฯ ส.นิยมทรานสปอร์ต ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 268, 335, 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 335(1)(11) วรรคสาม ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา 90 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก2 ปี 6 เดือน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายว่าจำเลยมีความผิดหลายกระทงหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทรัพย์สินปรากฏตามบัญชีท้ายฟ้อง เป็นทรัพย์สินของ บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัดแต่อยู่ในความครอบครองของโจทก์ร่วมซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งไปให้ร้านโฟโต้เฮ้าส์ การที่จำเลยที่ 2 กับพวก ร่วมกันปลอมเอกสารใบรับสินค้าของบริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 ฉบับโดยปลอมลายมือชื่อบุคคลในร้านโฟโน้เฮ้าส์ ลงในช่องผู้รับสินค้าเพื่อแสดงเป็นหลักฐานว่าร้านโฟโต้เฮาส์ได้รับสินค้าดังกล่าวแล้วก็ดี นำเอกสารดังกล่าวไปแสดงต่อนายเสถียร รัตนพิธาน หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ส.นิยมทรานสปอร์ตนายจ้างก็ดี ก็ล้วนแล้วแต่เห็นวิธีการเพื่อผลในการเอาทรัพย์สินไปทั้งสิ้น จะเห็นได้จากเอกสารใบรับสินค้าทิ้ง 2 ฉบับดังกล่าวต่างลงวันที่ 9 มกราคม 2532 ซึ่งเป็นวันก่อนวันกระทำผิดฐานลักทรัพย์ทั้งสิ้น แม้การปลอมเอกสารกับการใช้หรืออ้างเอกสารปลอมต่างเป็นความผิดสำเร็จในตัวก็ตาม แต่ก็เป็นความผิดหลายบทต่อเนื่องโดยมุ่งเจตนาในความสำเร็จของความผิดฐานลักทรัพย์เท่านั้น จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดหลายบทดังศาลล่างทั้งสองพิพากษาซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share