คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์กล่าวชัดว่า จำเลยเป็นลูกจ้างยักยอกเงินของนายจ้าง ดังนี้ นายจ้างก็เป็นนายของลูกจ้าง ลูกจ้างก็เป็นคนใช้นายจ้าง ศาลต้องลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 319(1)
(อ้างฎีกา 165/2489)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างนายสวาทนายจ้างให้เป็นผู้รับเงินค่าถ่านจากนายบักเท้ง จำเลยได้รับเงินซึ่งนายบักเท้งได้ชำระเป็นค่าถ่านแล้วจำเลยมิให้นำไปมอบให้นายสวาทนายจ้าง ได้บังอาจเจตนาทุจจริตยักยอกเอาเงินไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย นายสวาทได้ร้องทุกข์แล้ว จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๑๙ (๑) และให้ใช้เงิน จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์จำเลยไม่สืบพะยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่า ไม่มีความผิดตามมาตรา ๓๑๙ ข้อ ๑ แต่มีความผิดตามมาตรา ๓๑๔ พิพากษาจำคุก ๑ ป ๖ เดือน ลดฐานปราณีตามมาตรา ๕๙ คงจำคุก ๙ เดือน และใช้เงินแก่เจ้าทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวสั้น ๆ ก็ว่า หาว่าลูกจ้างยักยอกเงินของนายจ้าง นายจ้างเป็นนายของลูกจ้าง ลูกจ้างก็เป็นคนใช้ของนายจ้าง ลูกจ้างอยู่ในฐานะคนใช้ของนายจ้าง
พิพากษาแก้บทลงโทษว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๓๑๙ (๑) นอกนั้นคงยืน

Share