คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามข้อบังคับของจำเลยที่1กำหนดไว้ว่าการโอนหุ้นจะต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนรวมทั้งระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รับโอนให้ชัดแจ้งโดยมีพยานสองคนลงลายมือชื่อรับรองและจดแจ้งการโอนทั้งลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นและตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองบัญญัติว่าการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้นถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอนมีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้นๆด้วยแล้วท่านว่าเป็นโมฆะอนึ่งตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วยแต่ตามหลักฐานใบโอนหุ้นตามคำฟ้องโจทก์และใบสำคัญการโอนหลักทรัพย์คงมีแต่ลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจและประทับตราสำคัญของบริษัทอ. ไม่มีรายชื่อผู้รับโอนและพยานลงลายมือชื่อรับรองไม่เป็นไปตามข้อบังคับของจำเลยที่1และบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวการโอนหุ้นระหว่างโจทก์กับบริษัทอ.จึงไม่มีผลใช้ยันจำเลยที่1ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1 จำนวน150,000 หุ้น คือหุ้นหมายเลขที่ 146300001 ถึง 164350000 และ146650001 ถึง 146750000 จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ 1 ให้เป็นนายทะเบียนหุ้น เดือนกุมภาพันธ์ 2535 จำเลยที่ 2 ประกาศยกเลิกใบหุ้นเก่าของจำเลยที่ 1 ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2535 โดยให้ผู้ถือหุ้นใบเก่าไปแลกใบหุ้นใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2535 โจทก์ไม่ทราบเรื่องจึงมิได้นำใบหุ้นเก่าไปแลกใบหุ้นใหม่จากจำเลยที่ 2 โจทก์เพิ่งทราบเรื่องเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2535 จึงนำใบหุ้นเก่าไปแลก แต่จำเลยที่ 2ปฏิเสธว่าพ้นกำหนดเวลาที่จะขอรับใบหุ้นใหม่ เมื่อโจทก์ติดต่อไปยังจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ให้ติดต่อไปยังจำเลยที่ 2 โจทก์ยังไม่ได้รับใบหุ้นใหม่จากจำเลยที่ 2 จนบัดนี้ โจทก์ได้รับความเสียหายไม่อาจใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในการโอนและรับเงินปันผลและสิทธิอื่น ๆ ในฐานะผู้ถือหุ้นจะพึงมี ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันออกใบหุ้นใหม่ของจำเลยที่ 1 แก่โจทก์จำนวน 150,000 หุ้นและรับใบหุ้นเก่าจากโจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่นายทะเบียนหุ้นของจำเลยที่ 1 โจทก์มิได้เป็นผู้ถือหุ้นจำเลยที่ 1 ตามที่กล่าวอ้างหุ้นพิพาทดังกล่าวตามทะเบียนผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1ระบุชื่อบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199) จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นการโอนหุ้นระหว่างบริษัทดังกล่าวกับโจทก์มิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนและผู้รับโอนมีพยานลงชื่อรับรองและจดแจ้งการโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น เป็นการโอนหุ้นลอยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของจำเลยที่ 1 โจทก์จะใช้ยันจำเลยที่ 1 ไม่ได้ โจทก์ไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า ใบหุ้นพิพาทที่โจทก์อ้างว่าเป็นผู้ถือหุ้นนั้นเป็นของบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199) จำกัดซึ่งจำเลยที่ 2 ได้รับมอบหมายให้เป็นนายทะเบียนหุ้นของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 ได้ประกาศแจ้งให้ผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1 นำใบหุ้นเก่ามาแลกใบหุ้นใหม่จากจำเลยที่ 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์2535 แต่บริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199) จำกัด มิได้นำใบหุ้นพิพาทมาแลกใบหุ้นใหม่ภายในกำหนด ใบหุ้นดังกล่าวจึงถูกยกเลิกไปใบหุ้นพิพาทที่โจทก์อ้างว่าได้รับโอนลายมานั้น โจทก์มิได้ดำเนินการโอนและเปลี่ยนใบหุ้นเก่าภายในกำหนดก่อนใบหุ้นดังกล่าวถูกยกเลิกตลอดจนโจทก์มิได้รับมอบอำนาจจากบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199)จำกัด ให้ดำเนินการเปลี่ยนใบหุ้น จำเลยที่ 2 จึงไม่อาจโอนและเปลี่ยนใบหุ้นใหม่ให้โจทก์ได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังว่า โจทก์รับโอนหุ้นของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหุ้นสามัญระบุชื่อบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199) จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นจำนวน150,000 หุ้น มาจากนางเยาวณี นิรันดร โดยยังไม่มีการจดแจ้งเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นในทะเบียนผู้ถือหุ้นของจำเลยที่ 1ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้นำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์รับอนุญาตในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปัญหาตามฎีกาโจทก์มีว่า การโอนหุ้นของโจทก์โดยการโอนหุ้นลอยเป็นการผิดข้อบังคับของจำเลยที่ 1 และตกเป็นโมฆะหรือไม่ ปัญหานี้ปรากฎตามสำเนาข้อบังคับของจำเลยที่ 1 เอกสารหมาย ล.2 หมวด 2ข้อ 7 กำหนดไว้ว่า การโอนหุ้นจะต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอน และผู้รับโอน รวมทั้งระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รับโอนให้ชัดแจ้งโดยมีพยานสองคนลงลายมือชื่อรับรอง และจดแจ้งการโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1129 วรรคสอง บัญญัติว่า การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้น ๆ ด้วยแล้ว ท่านว่าเป็นโมฆะ อนึ่งตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วย แต่ตามหลักฐานใบโอนหุ้นตามคำฟ้องโจทก์เอกสารหมาย จ.14 ถึง จ.16 และใบสำคัญการโอนหลักทรัพย์ เอกสารหมาย จ.2 ถึง จ.4 คงมีแต่ลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจและประทับตราสำคัญของบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท (199)จำกัด ไม่มีรายชื่อผู้รับโอน และพยานลงลายมือชื่อรับรองไม่เป็นไปตามข้อบังคับของจำเลยที่ 1 และบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว การโอนหุ้นระหว่างโจทก์กับบริษัทอิสเทิร์นเรียลเอสเตท(1990) จำกัด จึงไม่มีผลใช้ยันจำเลยที่ 1 ได้ การที่จำเลยที่ 1และที่ 2 ปฏิเสธการออกใบหุ้นของจำเลยที่ 1 จำนวน 150,000 หุ้นตามคำฟ้องให้แก่โจทก์ย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่ 1 ที่พึงกระทำได้ศาลฎีกาไม่อาจบังคับจำเลยที่ 1 ให้ออกใบหุ้นแก่โจทก์ตามคำฟ้องได้ที่โจทก์ฎีกาอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนฎีกาโจทก์มามากมาย ศาลฎีกาเห็นว่า ตราบใดที่โจทก์ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทกฎหมายดังกล่าวและข้อบังคับของจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 ก็ยังมีสิทธิจะปฏิเสธการออกใบหุ้นให้โจทก์ได้เสมอ
พิพากษายืน

Share