คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดอันยอมความได้ วันที่โจทก์รู้ความผิดของจำเลยครบ 3 เดือนเป็นวันเสาร์หยุดราชการถึงวันอาทิตย์ วันจันทร์โจทก์ยื่นฟ้องไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็ค 5 ฉบับ แลกเงินสดจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดสั่งจ่าย โจทก์นำเช็คทั้ง 5 ฉบับเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คแต่เรียกเก็บเงินไม่ได้เพราะธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้โดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นความผิดอันยอมความได้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 4 ถ้าโจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดก็ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 แต่ปรากฏว่าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2523 ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 3 เดือน นับแต่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดนั้นตรงกับวันเสาร์ รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการทั้งสองวัน โจทก์จึงมาฟ้องในวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2523 ซึ่งเป็นวันเริ่มปฏิบัติราชการใหม่ได้ ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 161 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่ระบุวันเวลาที่จำเลยกระทำความผิดโดยชัดแจ้ง คงระบุแต่เพียงวันที่โจทก์ส่งเช็คให้ธนาคารตัวแทนโจทก์เรียกเก็บเงินให้ และวันที่ธนาคารตัวแทนโจทก์แจ้งให้โจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน มิได้ระบุว่าเหตุเกิดในระหว่างวันเวลาดังกล่าวและไม่แนบสำเนาเช็คกับใบคืนเช็คมาพร้อมกับฟ้องนั้น เห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ที่ระบุถึงวันเวลาที่โจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค (19 พฤศจิกายน 2522 เวลากลางวัน) และระบุถึงวันเวลาที่ธนาคารที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีแจ้งให้โจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน (26 พฤศจิกายน 2522 เวลากลางวัน) นั้น ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจได้แล้วว่า วันเวลาที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอันเป็นวันเวลาที่จำเลยกระทำความผิด ซึ่งจำเลยว่าโจทก์ไม่ระบุมาในคำฟ้องก็คือวันเวลาในระหว่างตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2522 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2522 เวลากลางวันนั่นเอง และแม้โจทก์จะไม่ได้แนบสำเนาเช็คกับใบคืนเช็คมากับฟ้องด้วย แต่โจทก์ก็ได้บรรยายรายละเอียดของเช็คทุกฉบับที่อ้างว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายและถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาด้วยแล้ว ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ชอบด้วยมาตรา 158(5) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่

พิพากษายืน

Share