คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5666/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นกำนันและประธานกรรมการสภาตำบลท้องที่ มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของทางราชการที่เกิดจากโครงการสร้างงานในชนบท ได้อนุญาตให้ ช. ผู้รับเหมาทำถนนดินในตำบลท้องที่ขุดดินจากถนนเดิมซึ่งเป็นถนนที่สภาตำบลสร้างขึ้นตามโครงการสร้างงานใน ชนบทปีก่อน ๆ และอยู่ในความดูแลของสภาตำบลที่จำเลยเป็นประธานกรรมการไปถมทำถนนใหม่ และปล่อยให้ ช. ขุดดินจากข้างถนนเดิมขึ้นมาถมแทนดินที่ขุดไป ทำให้ ช. ไม่ต้องซื้อที่ดินจากที่อื่นมาถมถนนเดิมที่ขอยืมดินไปตามสัญญา แล้วจำเลยกลับเบิกจ่ายเงินค่าทำถนนให้ ช. ไปจนครบจำนวน จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 147

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นกำนันตำบลพิมลราช และเป็นประธานกรรมการสภาตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของทางราชการ โดยทุจริตยอมให้นายเชิงชาย กิตติวิวัฒน์พงศ์ ทำการขุดถนนดินริมคลองพระพิมลอันเป็นทรัพย์สินของทางราชการซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษา แล้วจำเลยกับพวกได้เบิกจ่ายเงินของทางราชการซื้อดินที่นายเชิงชายขุดดังกล่าวมาทำถนนในโครงการสร้างงาน ในชนบทสายอื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗ จำคุก ๖ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก ๔ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นกำนันและประธานกรรมการสภาตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จำเลยได้ว่าจ้างนายเชิงชาย กิตติวิวัฒน์พงศ์ เป็นผู้รับเหมาทำถนนตามที่สภาตำบลได้รับอนุมัติเงินงบประมาณสร้างงานในชนบท และจำเลยได้อนุญาตให้นายเชิงชายขุดดินจากข้างถนนดินเดิมริมคลองพระพิมลซึ่งเป็นถนนที่สภาตำบลพิมลราชสร้างขึ้นตามโครงการสร้างงานในชนบทปีก่อน ๆ ไปทำถนนใหม่ โดยไม่ได้มีการซื้อดินจากที่อื่นตามงบประมาณที่ได้รับมาและจำเลยยังปล่อยให้นายเชิงชายขุดดินจากข้างถนนเดิมขึ้นมาถมเท่านั้นไม่ได้ซื้อดินจากที่อื่นมาถมถนนที่ขอยืมเดินไป แม้การประชุมสภาตำบลจะได้ลงมติให้นายเชิงชายขอยืมดินได้ก็ตาม แต่นายเชิงชายก็จะต้องซื้อดินจากที่อื่นมาถมถนนตามเดิมด้วย การที่นายเชิงชายใช้ดินถนนเดิมมาทำถนนใหม่และขุดดินข้างถนนเดิมมาถมถนนเดิมแทนเช่นนี้ ทำให้นายเชิงชายไม่ต้องซื้อดินจากที่อื่นมาทำถนนใหม่ตามสัญญา แต่จำเลยกลับเบิกจ่ายเงินค่าทำถนนให้นายเชิงชายไปจนครบจำนวนตามสัญญา แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาให้นายเชิงชายได้รับประโยชน์จากการขุดดินถนนเดิมไปทำถนนที่รับเหมา จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จำเลยจะอ้างมติที่ประชุมของสภาตำบลที่อนุญาตให้ยืมดินได้และอนุญาตจ่ายเงินให้นายเชิงชายได้นั้นมาปัดความรับผิดของจำเลยในฐานะประธานกรรมการสภาตำบลมีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของตำบลและเงินของทางราชการไม่ได้
พิพากษายืน.

Share