แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิตามมาตรา 1382 ป.พ.พ. โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่ และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่
ย่อยาว
คดีนี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าที่ดินรายพิพาทอยู่ในโฉนด ๒๙๙ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ แต่นางเต๋งมารดา มารดาโจทก์ได้ยกที่ดินรายพิพาทให้จำเลยที่ ๑ ครอบครองมาโดยสงบ และเปิดเผยเป็นเวลาเกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว จำเลยที่ ๑ จึงได้โอนขายให้แก่จำเลยที่ ๒ โจทก์ไม่มีอำนาจขับไล่
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่า นางเต๋งมารดาโจทก์ไม่มีอำนาจเอาที่ดินไปยกให้จำเลยที่ ๑ และหนังสือยกให้ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางเต๋งมารดาโจทก์ได้ทำหนังสือยกที่รายพิพาทให้แก่จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๑ ได้เข้าครอบครองโดยสงบ และเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน ๑๐ ปี แล้ว จำเลยที่ ๑ ย่อมได้กรรมสิทธิตามมาตรา ๑๓๘๒ ป.พ.พ. โดยไม่ต้องคำนึงว่ามารดาโจทก์จะเป็นเจ้าของที่ดินในเวลาทำหนังสือยกให้หรือไม่ และหนังสือนั้นใช้ได้หรือไม่ หนังสือยกให้เป็นเพียงแสดงให้เห็นว่า จำเลยที่ ๑ ได้เข้าครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของจริง ๆ ไม่ใช่โดยการอาศัย จึงพิพากษายืน