แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของ ท. เพื่อออกสู่ทางสาธารณะโดยท.ยินยอมต่อมาท. ขายที่ดินให้จำเลย ดังนี้โจทก์ใช้ทางเดินดังกล่าวนานเท่าใด โจทก์ก็ไม่ได้ภาระจำยอม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อรั้วซึ่งปิดกั้นทางเดินของที่ดินโจทก์ด้านทิศตะวันตกกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวตลอดถึงถนนสาธารณะ ถ้าจำเลยไม่รื้อให้โจทก์เป็นผู้รื้อและเสียค่าใช้จ่ายเอง ให้จำเลยไปจดทะเบียนทางเดินดังกล่าวเป็นสิทธิแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์ใช้ที่ดินโดยอัธยาศัย โจทก์จึงไม่ได้สิทธิภาระจำยอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อรั้วที่ปิดกั้นที่ดินโจทก์ทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งปิดประตูบ้านโจทก์ และทางเดินเข้าออกถนนสาธารณะ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์ทำการรื้อถอนเองโดยโจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ให้จำเลยไปจดทะเบียนภาระจำยอม กว้างประมาณ3 เมตร ยาวถึงถนนสาธารณะ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับนางเพี้ยน มีพูล และนางเทพ มีพูล ที่ดินด้านใต้ของโจทก์ติดกับที่ดินของนางทบ แตงกวยซึ่งตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เอกสารหมาย จ.3 และแผนที่วิวาทเอกสารหมาย จ.4 ปรากฏว่าที่ดินของนางทบนั้นทิศใต้จดถนนสาธารณประโยชน์คือถนนสุขาภิบาล ทิศตะวันออกจดตรอกสาธารณประโยชน์ นางทบขายที่ดินให้จำเลยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2526โจทก์และคนในหมู่บ้านที่จะเข้าออกสู่ทางสาธารณะเดินผ่านที่ดินนางทบทางด้านทิศใต้ เพราะทางสาธารณะด้านทิศตะวันออกของที่ดินโจทก์นั้นเดิมเป็นที่เลน ประชาชนไม่เดินผ่านกัน ปัจจุบันได้สร้างเป็นถนนคอนกรีตแล้ว โจทก์เคยไปร้องเรียนต่อทางอำเภอ นายอำเภอได้เปรียบเทียบแล้วจำเลยยอมเปิดทางให้โจทก์และบริวารเดินผ่านทางที่ปิดได้ 20 วัน ครบแล้วปิดไม่ให้ผ่าน ให้โจทก์ไปฟ้องร้องต่อศาลมีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ได้เดินผ่านที่ดินของจำเลยก่อนและหลังที่จำเลยจะซื้อจากนางทบรวมเป็นเวลากว่า 10 ปี จึงได้ภาระจำยอมหรือไม่… ดังนั้นการที่โจทก์ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของนางทบเพื่อออกสู่ทางสาธารณะได้นั้น เพราะนางทบยินยอมให้เดินผ่านที่โจทก์อ้างว่าได้ใช้ทางเดินในที่ดินของนางทบมา 10 ปีจึงได้ภาระจำยอมนั้น เมื่อเป็นการใช้โดยเจ้าของที่ดินยินยอมแล้ว แม้จะเป็นเวลานานเท่าใดก็ไม่ได้ภาระจำยอม…”
พิพากษายืน.