แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การครอบครองที่ดินนามือเปล่าที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ผู้ครอบครองได้แต่สิทธิครอบครองเท่านั้น หาได้กรรมสิทธิ์ไม่
จำเลยได้สละเจตนาครอบครองโดยทำสัญญาขายขาดที่ดินนามือเปล่า ให้โจทก์เข้าครอบครองแล้ว การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 และโจทก์ผู้เข้ายึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมได้ซึ่งสิทธิครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์จะใช้บังคับสำหรับที่ดินนามือเปล่า หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขายที่นาไม่มีหนังสือสำคัญให้โจทก์โจทก์ได้ชำระราคาและเข้าครอบครองที่นานั้นตลอดมา และยังได้บุกเบิกทำนามาจนทุกวันนี้ 6 ปีมาแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 จำเลยบังอาจบุกรุกเข้ามาทำนา จึงขอให้ขับไล่และห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องในนากับเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่า ไม่เคยขายนาให้โจทก์เป็นแต่ขายฝากไว้กับโจทก์ ต่อมาโจทก์ให้จำเลยเซ็นชื่อในสัญญาว่าเป็นการขายฝาก จำเลยขอไถ่คืนโจทก์ไม่ยอม และว่าโจทก์เข้าทำนาเพียง 4 ปี กับโจทก์ไม่เสียหายดังฟ้อง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ทำสัญญาขายขาดที่นาพิพาทอันเป็นที่ดินมือเปล่าให้แก่โจทก์ และมอบให้โจทก์ครอบครองตลอดมา สิทธิครอบครองของจำเลยเป็นอันสิ้นสุดลงด้วยเจตนาสละสิทธิครอบครอง โจทก์ผู้เข้าครอบครองโดยถือตนเป็นเจ้าของย่อมได้สิทธิครอบครองพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะปัญหากฎหมายที่ว่าการครอบครองที่ดินมือเปล่า จะใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377 หรือมาตรา 1382บังคับ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การครอบครองที่ดินนามือเปล่าที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ผู้ครอบครองได้แต่สิทธิครอบครองเท่านั้นหาได้กรรมสิทธิ์ไม่ คดีนี้จำเลยได้สละเจตนาครอบครองโดยทำสัญญาขายขาดให้โจทก์ครอบครองแล้ว การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 และโจทก์เป็นผู้เข้ายึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมได้ซึ่งสิทธิครอบครอง ส่วนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ จะใช้บังคับสำหรับที่ดินนามือเปล่าเช่นนี้ หาได้ไม่
พิพากษายืน