คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5607/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์คนละฉบับคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในทุนทรัพย์เดียวกัน เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน จำเลยแต่ละคนจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ในฟ้องอุทธรณ์ของตน จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 ได้เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ดังกล่าวเต็มจำนวนแล้ว จำเลยที่ 2จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอีกนั้นไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้จำเลยทั้งสองแยกอุทธรณ์คำพิพากษาโดยจำเลยที่ 1 เสียค่าขึ้นศาลส่วนจำเลยที่ 2 ไม่เสียค่าขึ้นศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำค่าขึ้นศาลมาเสียภายใน 10 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าทิ้งฟ้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 แต่ละฉบับต่างเป็นคำฟ้องตามมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่ฟ้องของแต่ละคนในเวลาที่ยื่นฟ้องตามตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ จำเลยทั้งสองได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในทุนทรัพย์อันเดียวกันคนละฉบับ เมื่อจำเลยที่ 1ได้เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ดังกล่าวเต็มจำนวนแล้ว จำเลยที่ 2จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอีกนั้น จึงฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”

Share