คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

คดีก่อนจำเลยที่5ได้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยที่3ขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทและศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดในคดีดังกล่าวว่าจำเลยที่5ไม่มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นในการปลอมใบมอบอำนาจคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวจึงผูกพันโจทก์คดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145โจทก์จะมาอ้างในคดีนี้อีกว่าจำเลยที่5ได้มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำปลอมหนังสือมอบอำนาจที่ใช้ในการขายที่ดินพิพาทให้กับโจทก์หาได้ไม่. กรมที่ดินได้วางระเบียบเพื่อป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้นเกี่ยวแก่การมอบอำนาจไว้ว่า’ฯโดยเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบลายมือชื่อมิใช่ผู้ชำนาญการพิเศษโดยเฉพาะการตรวจสอบจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างวิญญูชนจะพึงกระทำได้…..ฯลฯ…..การตรวจสอบลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจ….ให้ตรวจสอบว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับของเดิมพอที่จะเชื่อถือได้หรือไม่….ฯลฯ….’ดังนี้เมื่อลายมือชื่อปลอมของผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจปลอมกับลายมือชื่อที่แท้จริงของผู้มอบอำนาจมีลักษณะตัวอักษรช่องไฟและลีลาในการเขียนคล้ายคลึงกันมากในสายตาของวิญญูชนย่อมถือได้ว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันการที่เจ้าพนักงานที่ดินเชื่อว่าลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจปลอมเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงจึงถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานที่ดินกระทำโดยประมาทเลินเล่อ. กรมที่ดินวางระเบียบว่า’หนังสือมอบอำนาจควรมีพยานอย่างน้อย1คนถ้าผู้มอบอำนาจพิมพ์ลายมือต้องมีพยาน2คน…ฯลฯ…’เมื่อปรากฏว่าหนังสือมอบอำนาจนอกจากจะมีผู้รับมอบอำนาจลงชื่อเป็นพยานคนหนึ่งแล้วยังมีลายมือชื่อพยานอื่นอีกเช่นนี้แม้จะตัดลายมือชื่อพยานที่เป็นผู้รับมอบอำนาจออกไปใบมอบอำนาจนั้นก็ยังสมบูรณ์อยู่เมื่อไม่มีระเบียบให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจสอบใบมอบอำนาจถ่ายบัตรประจำตัวของผู้มอบอำนาจติดเรื่องไว้การที่เจ้าพนักงานไม่ได้กระทำเช่นนั้นจึงยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อถึงกับเป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหาย. โจทก์เบิกความเพียงว่าหากจำเลยที่3ตรวจดวงตราเขตบางรักที่ประทับก็จะรู้ว่าเป็นตราปลอมส่วนจำเลยที่4ก็เคยเห็นดวงตราเขตบางรักเสมอๆแต่มิได้นำสืบให้เห็นว่าดวงตราที่แท้จริงของเขตบางรักเป็นอย่างไรคำเบิกความของโจทก์จึงเป็นเพียงความเข้าใจหรือการคาดคะเนของโจทก์เองเป็นการเลื่อนลอยกรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่3ที่4กระทำละเมิดต่อโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ที่ 1 มี หน้าที่ ตาม กฎหมาย ใน การ ออก โฉนดและ ใบ แทน โฉนด ที่ดิน จด ทะเบียน การ โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน ทำนิติกรรม เกี่ยวแก่ กรรมสิทธิ์ และ สิทธิ ใน ที่ดิน จำเลย ที่ 2 ถึงที่ 4 เป็น เจ้าพนักงาน ที่ดิน มี หน้าที่ ปฏิบัติ ราชการ ภายใต้บังคับบัญชา และ รับผิด ชอบ ของ จำเลย ที่ 1 จำเลย ที่ 5 เป็น เจ้าของกรรมสิทธิ์ ที่ดิน รวม 3 โฉนด เนื้อที่ 604 ตารางวา จำเลย ทั้ง ห้ากระทำ ละเมิด ต่อ โจทก์ โดย จำเลย ที่ 5 แจ้ง กับ เจ้าหน้าที่ หมวดนิติกรรม ที่ดิน และ การ มอบอำนาจ ของ เขต บางรัก ว่า ประสงค์ จะ มอบอำนาจ ให้ บุตร ชาย ไป ขอ ใบแทน โฉนด ที่ดิน ทั้ง สาม แปลง จากกรมที่ดิน จำเลย ที่ 1 เพราะ โฉนด สูญหาย จำเลย ที่ 5 อายุ กว่า 60 ปีขอ ให้ เขต บางรัก รับรอง ว่า มี สติ สมบูรณ์ และ ประสงค์ จะ ทำ กิจการตาม ใบมอบอำนาจ ซึ่ง ความจริง โฉนด ดังกล่าว มิได้ สูญหาย แต่ จำเลยที่ 5 มี เจตนา ทุจริต ประสงค์ จะ นำ ใบ แทน โฉนด ไป ใช้ ใน ทาง ที่มิชอบ เจ้าหน้าที่ จึง ออก คำ รับรอง หนังสือ มอบอำนาจ ให้ จำเลย ที่5 ต่อมา มี ผู้ ทำปลอม ใบ มอบอำนาจ ที่ มี คำ รับรอง ดังกล่าว ด้วยความ ร่วมมือ ของ จำเลย ที่ 5 วันที่ 26 เมษายน 2519 บุคคล ที่ อ้าง ตนว่า เป็น นาย คณิสสร วิริยศิริ บุตร จำเลย ที่ 5 ผู้รับ มอบอำนาจ นำ ไปยื่น ขอ ใบ แทน โฉนด ต่อ จำเลย ที่ 3 ที่ สำนักงาน ที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำเลย ที่ 3 ด้วย ความ ประมาท เลินเล่อ ไม่ ตรวจดู ลายมือชื่อ ผู้มอบอำนาจ ว่า เหมือน กับ ลายมือชื่อ ใน สารบบ เดิม หรือ ไม่ ถ้า ตรวจดูจะ เห็น ได้ โดย ง่าย ว่า ไม่ เหมือน กัน ทั้ง อายุ ก็ คลาดเคลื่อนผู้รับ มอบอำนาจ มี บัตรประจำตัว ประชาชน จริง หรือ ไม่ จำเลย ที่3 ก็ ไม่ ได้ ถ่าย ภาพ ติด เรื่อง ไว้ ตาม ระเบียบ ดวงตรา ที่ ประทับกำกับ ลายมือชื่อ ของ พนักงาน ผู้ รับรอง ก็ มี รูปร่าง ลักษณะ ลวดลายผิดปกติ เห็น ได้ ชัด ว่า เป็น ดวงตรา ปลอม หาก จำเลย ที่ 3 ตรวจสอบและ ใช้ ความ ระมัดระวัง ก็ จะ เห็น ว่า ไม่ เหมือน กับ ที่ จำเลย ที่3 เคย พบ เห็น อยู่ เสมอ พยาน ใน การ รับ มอบอำนาจ ก็ ไม่ มี ผู้รับมอบอำนาจ กลับ เป็น พยาน เสีย เอง จำเลย ที่ 3 ควร เสนอ ให้ระงับ การออก ใบแทน ไว้ ก่อน แล้ว ส่ง หนังสือ มอบอำนาจ ไป ตรวจสอบ ยังเจ้าพนักงาน ผู้รับรอง ที่ เขตบางรัก แต่ กลับ เสนอ ให้ จำเลย ที่2 ผู้ เป็น เจ้าพนักงาน ที่ดิน ดำเนินการ ต่อไป จำเลย ที่ 2 มิได้กระทำ การ ตาม ระเบียบ ที่ ทาง ราชการ วาง ไว้ กลับ ออก ใบแทน โฉนด ให้และ มอบ ใบแทน โฉนด แก่ ผู้รับ มอบอำนาจ ปลอม ไป ใน วันที่ 22มิถุนายน 1519 โจทก์ กับ ผู้ ที่ อ้าง ตน ว่า เป็น บุตร จำเลย ที่ 5ได้ ทำ นิติกรรม ซื้อขาย ที่ดิน ทั้ง สาม โฉนด นั้น ที่ สำนักงาน ที่ดินกรุงเทพมหานคร จำเลย ที่ 4 มี หน้าที่ รับ คำ ขอ ทำ นิติกรรม ดังกล่าวด้วย ความ ประมาท เลินเล่อ จำเลย ที่ 4 ไม่ ตรวจดู ว่า ลายมือ ชื่อผู้รับ มอบอำนาจ เหมือน กับ ลายมือชื่อ ใน สารบบ เดิม หรือ ไม่ ไม่ ถ่ายบัตร ประจำตัว ประชาชน ของ ผู้รับ มอบอำนาจ และ ผู้ซื้อ ติด เรื่อง ไว้ จำเลย ที่ 4 เคย เห็น ดวงตรา ที่ ประทับ กำกับ ลายมือชื่อ เจ้าพนักงานเสมอ ถ้า ใช้ ความ สังเกต จะ เห็น ได้ ว่า เป็น ดวงตรา ปลอม จำเลย ที่2 มิได้ ทำ ตาม ระเบียบ ที่ ทาง ราชการ วาง ไว้ คือ ถ้า ตรวจดู ลายมือชื่อ ผู้มอบอำนาจ กับ ลายมือชื่อ เจ้าของ ที่ ดิน ใน สารบบ เดิม จะเห็น ว่า ไม่ คล้ายคลึง กันดวงตรา ที่ ประทับ กำกับ ลายมือชื่อ ผู้รับรอง ไม่ เหมือน กับ ดวงตราที่ แท้จริง หาก จำเลย ที่ 2 ตรวจดู แล้ว ก็ จะ ต้อง ไม่ จด ทะเบียนโอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน ดังกล่าว ให้ แก่ โจทก์ การ กระทำ โดย ความประมาท เลินเล่อ ของ จำเลย ที่ 1 ถึง จำเลย ที่ 4 และ การ กระทำ ของจำเลย ที่ 5 เป็น เหตุ ให้ โจทก์ ได้ รับ ซื้อ ที่ดิน ทั้ง สาม โฉนดและ ได้ จ่าย เงิน จำนวน 1,751,600 บาท ให้ แก่ ผู้ ที่ อ้าง ตน ว่าเป็น บุตร จำเลย ที่ 5 ไป แล้ว จึง ขอ ให้ ศาล บังคับ จำเลย ทั้ง ห้าร่วมกัน ใช้ เงิน 1,751,600 พร้อมด้วย ดอกเบี้ย ให้ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง ห้า ให้การ ปฏิเสธ ต่อสู้คดี ขอ ให้ ศาล พิพากษา ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น วินิจฉัย ว่า จำเลย ที่ 5 มิได้ แสดงตัว ขอ รับ คำรับรองใน หนังสือ มอบอำนาจ และ ไม่ มี ส่วน รู้เห็น ใน การ ปลอม หนังสือมอบอำนาจ จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 มิได้ ประมาท เลินเล่อใน การ ออก ใบแทน โฉนด และ การ ทำ นิติกรรม ซื้อขาย ที่ดิน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ‘โจทก์ ฎีกา ข้อแรก ว่า จำเลย ที่ 5 ได้ จงใจกระทำ ละเมิด ต่อ โจทก์ โดย จำเลย ที่ 5 ได้ มี ส่วนร่วม หรือ รู้เห็นกับ การ กระทำ ปลอม หนังสือ มอบอำนาจ ที่ ใช้ ใน การ ขาย ที่ดิน พิพาทให้ กับ โจทก์ เห็น ว่า ปัญหา ข้อ นี้ ปรากฏ ว่า ศาลฎีกา ได้ วินิจฉัยชี้ขาด ใน คดี หมายเลขดำ ที่ 295/2520 หมายเลขแดง ที่ 3574/2523 ของศาลแพ่ง แล้ว ว่า จำเลย ที่ 5 ไม่ มี ส่วนร่วม หรือ รู้เห็น ใน การปลอม ใบมอบอำนาจ ที่ นาย มานพ กับพวก สมคบ กัน ปลอม ขึ้น คดี ดังกล่าวจำเลย ที่ 5 ได้ เป็น โจทก์ ฟ้อง นาย สมชาย วินศิริ โจทก์ คดี นี้เป็น จำเลย ที่ 3 ขอ ให้ เพิกถอน นิติกรรม ซื้อขาย ที่ พิพาท คำพิพากษาของ ศาลฎีกา ดังกล่าว จึง ผูกพัน โจทก์ คดี นี้ ซึ่ง เป็น คู่ความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ข้อเท็จจริง จึง ฟัง ได้ ว่า จำเลย ที่ 5 มิได้ ทำ ละเมิด ต่อ โจทก์ ฎีกา โจทก์ ข้อ นี้ ฟัง ไม่ขึ้น
โจทก์ ฎีกา ข้อ ต่อ มา ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 4 ได้ กระทำ โดยประมาท เลินเล่อ เป็น เหตุ ให้ โจทก์ ได้ รับ ความ เสียหาย โดย จำเลยที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 ไม่ ตรวจสอบ ลายมือชื่อ ของ ผู้มอบอำนาจ ในใบ มอบอำนาจ กับ ลายมือชื่อ ของ ผู้ มอบอำนาจ ที่ มี อยู่ ใน สารบบของ กรม ที่ดิน ให้ ละเอียด ทั้ง อายุ ของ ผู้ มอบอำนาจ ก็ คลาดเคลื่อนและ พยาน คนหนึ่ง ใน ใบ มอบอำนาจ ก็ เป็น ผู้รับ มอบอำนาจ เอง บัตรประจำตัว ของ ผู้มอบอำนาจ จำเลย ที่ 3 ก็ ไม่ ถ่าย ภาพ ติด เรื่อง ไว้โดยเฉพาะ ดวงตรา ของ เขต บางรัก ที่ ประทับ ก็ เป็น ดวงตรา ปลอม หากจำเลย ที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 ได้ ตรวจสอบ ให้ ถี่ถ้วน ย่อม จะ ทราบได้ ว่า หนังสือ มอบอำนาจ เป็น เอกสาร ปลอม การ ที่ จำเลย ที่ 2 ที่3 และ ที่ 4 ทำการ ตรวจสอบ ใบ มอบอำนาจ เพียง ผิวเผิน ไม่ ใช้ ความพินิจ พิจารณา และ ระมัดระวัง ตาม สมควร ถือ ได้ ว่า กระทำ โดย ประมาทเลินเล่อ เป็น เหตุ ให้ โจทก์ ต้อง ได้ รับ ความ เสียหาย จำเลย ที่1 ที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 ต้อง ร่วมกัน รับผิด ชดใช้ ค่าเสียหาย แก่โจทก์ พิเคราะห์ แล้ว เห็นว่า คำสั่ง กรมที่ดิน ที่ 10/2501 ซึ่งเป็น คำสั่ง วาง ระเบียบ เพื่อ ป้องกัน การ ทุจริต ที่ เกิดขึ้น เกี่ยวแก่ การ มอบอำนาจ ข้อ 3 มี ว่า ‘การ ตรวจ หนังสือ มอบอำนาจ ให้ พิจารณาโดย ละเอียด ใน ข้อเหล่านี้….ฯลฯ’
จ. ตรวจสอบ ลายมือ ชื่อ ของ ผู้มอบ อำนาจ โดย ที่ เจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจสอบ ลายมือชื่อ มิใช่ ผู้ชำนาญ การ พิเศษ โดยเฉพาะ การ ตรวจสอบจึง ต้อง ใช้ ความ ระมัดระวัง อย่าง วิญญูชน จะ พึง กระทำ ได้…ฯลฯ…การ ตรวจสอบ ลายมือชื่อ ของ ผู้ มอบอำนาจ ซึ่ง อาจ เป็น ลายเซ็น หรือลาย พิมพ์ นิ้วมือ ก็ ได้ นั้น ให้ ตรวจสอบ ว่า มี ลักษณะ คล้ายคลึงกับ ของ เดิม พอ ที่ จะ เชื่อถือ ได้ หรือ ไม่….ฯลฯ….’ เห็น ได้ ว่าตาม ระเบียบ ดังกล่าว ระบุ ให้ เจ้าพนักงาน ตรวจสอบ ลายมือชื่อ ผู้มอบอำนาจ โดย ใช้ ความ ระมัดระวัง อย่าง วิญญูชน ที่ จะ พึง กระทำ ได้เท่านั้น มิใช่ ให้ ตรวจสอบ เสมือน เป็น ผู้ ชำนาญ การ พิเศษ ศาลฎีกาได้ ตรวจสอบ ลายมือชื่อ ปลอม ของ จำเลย ที่ 5 ผู้ มอบอำนาจ ใน หนังสือมอบอำนาจ ปลอม เปรียบเทียบ กับ ลายมือชื่อ ที่ แท้จริง ของ จำเลย ที่5 ใน เรื่อง ราว เดิม ที่ มี อยู่ ที่ สำนักงาน ที่ดิน….และ ลายมือชื่อ ของ จำเลย ที่ 5…ใน สำนวน คดีแพ่ง….หมายเลขแดง ที่ 3574/2523แล้ว เห็นว่า มี ลักษณะ ตัว อักษร ช่องไฟ และ ลีลา ใน การ เขียนคล้ายคลึง กัน มาก ใน สาย ตา ของ วิญญูชน ย่อม เชื่อถือ ได้ ว่า เป็นลายมือชื่อ ของ บุคคล คนเดียว กัน ฉะนั้น ที่ จำเลย ที่ 2, ที่ 3และ ที่ 4 เชื่อ ว่า ลายมือชื่อ ของ ผู้มอบอำนาจ….เป็น ลายมือชื่อของ ผู้ มอบอำนาจ จริง จึง ถือ เป็น ความ ประมาท เลินเล่อ ไม่ ได้ส่วน ข้อ ที่ อายุ ของ ผู้ มอบอำนาจ คลาดเคลื่อน นั้น ก็ ปรากฏ ว่าคลาดเคลื่อน ไป เพียง 1 ปี ซึ่ง โดย ปกติ ธรรมดา ย่อม ลง คลาดเคลื่อนเช่นนั้น ได้ จึง ไม่ ถึง กับ เป็น ข้อ พิรุธ ที่ จำ ทำ ให้ เป็น เหตุสงสัย ใน ใบมอบอำนาจ จน ถึง แก่ จะ ระงับ เรื่อง ไม่ ดำเนินการ ให้ที่ โจทก์ อ้าง ว่า พยาน คน หนึ่ง ใน ใบ มอบอำนาจ ก็ เป็น ผู้รับมอบอำนาจ เอง นั้น ศาลฎีกา เห็น ว่า….ตาม ระเบียบ…..ข้อ 4 มี ว่า’หนังสือ มอบอำนาจ ควร มี พยาน อย่างน้อย 1 คน ถ้า ผู้ มอบอำนาจ พิมพ์ลายมือ ต้อง มี พยาน 2 คน…ฯลฯ…กรณี คดี นี้ ผู้ มอบอำนาจ ลงลายมือชื่อ มิใช่ พิมพ์ ลายนิ้วมือ เมื่อ มี พยาน เพียง คนเดียว ใบมอบอำนาจ ก็ สมบูรณ์ ข้อเท็จจริง ปรากฏ ว่า พยาน ใน ใบมอบอำนาจ…นอกจาก มี ลายมือชื่อ ‘คณิสสร’ ผู้ รับมอบอำนาจ แล้ว ยัง มี ลายมือชื่อพยาน อื่น อีก คน หนึ่ง ด้วย แม้ จะ ตัด ลายมือชื่อ พยาน ซึ่ง เป็นผู้ รับมอบอำนาจ ออก ไป ใบมอบอำนาจ ดังกล่าว ก็ ยัง คง สมบูรณ์ อยู่และ นาย จิตต์ ณ ตะกั่วทุ่ง พยาน จำเลย เบิกความ ว่า แม้ ผู้รับมอบอำนาจ ลงชื่อ เป็น พยาน ก็ ไม่ น่า สงสัย เพราะ มี บุคคล อื่น ลงชื่อเป็น พยาน ด้วย ดังนี้ การ มี ชื่อ ผู้รับ มอบอำนาจ เป็น พยาน ด้วยจึง ไม่ เป็น พิรุธ ให้ สงสัย ว่า ใบมอบอำนาจ จะ เป็น เอกสาร ปลอมแต่ ประการ ใด ส่วน ที่ โจทก์ อ้าง ว่า จำเลย ที่ 3 ไม่ ถ่าย ภาพบัตร ประจำตัว ของ ผู้มอบอำนาจ ติด เรื่อง ไว้ นั้น เห็นว่า โจทก์ไม่ มี พยาน มา นำสืบ ให้ เห็น ว่า มี ระเบียบ ข้อบังคับ ให้เจ้าพนักงาน ผู้ตรวจสอบ ใบมอบอำนาจ ทำ การ ถ่าย ภาพ บัตรประจำตัว ของผู้ มอบอำนาจ ติด เรื่อง ไว้ แต่ อย่างใด อย่างไร ก็ ตาม แม้ จำเลยที่ 3 ไม่ ได้ ถ่าย ภาพ บัตร ประจำตัว ผู้มอบอำนาจ ไว้ ก็ ไม่ พอ ถือว่า เป็น ความ ประมาท เลินเล่อ ถึง กับ เป็น เหตุ ให้ โจทก์ เสียหายตาม ฟ้อง ส่วน ดวงตรา ของ เขต บางรัก ที่ ประทับ ใน ใบมอบอำนาจ ซึ่งเป็น ดวงตรา ปลอม โจทก์ อ้าง ว่า จำเลย ที่ 2, ที่ 3, และ ที่ 4 ไม่ตรวจสอบ กับ ดวงตรา ที่ แท้จริง ให้ ถี่ถ้วน นั้น ข้อเท็จจริง ปรากฏ ว่าโจทก์ เบิกความ แต่ เพียง ว่า หาก จำเลย ที่ 3 ตรวจ ดวงตรา เขต บางรักที่ ประทับ ก็ จะ รู้ ว่า เป็น ตรา ปลอม และ เบิกความ อีก ว่า ดวงตราของ เขต บางรัก จำเลย ที่ 4 ก็ เคย เห็น เสมอๆ แต่ โจทก์ มิได้ นำสืบให้ เห็น ว่า ดวงตรา ที่ แท้จริง ของ เขต บางรัก เป็น อย่างไร คำเบิกความ ของ โจทก์ ดังกล่าว เป็น เพียง ความ เข้าใจ หรือ การ คาด คะเนของ โจทก์ เอง โดย ไม่ มี พยาน หลักฐาน สนับสนุน จึง เลื่อนลอย ประกอบกับ จำเลย ที่ 3 เบิกความ ว่า ได้ โทรศัพท์ สอบถาม เขต บางรัก ถึงใบมอบอำนาจ เอกสาร หมาย ล. 1 แล้ว เขต บางรัก แจ้งว่า ได้ รับรอง ใบมอบอำนาจ มี เลข ตรงกัน กับ เอกสาร หมาย ล. 1 จึง เห็น ว่า เมื่อ ทางเขต บางรัก แจ้งว่า ได้ รับรอง ใบมอบอำนาจ จริง จำเลย ที่ 2, ที่ 3,และ ที่ 4 ย่อม เชื่อ โดย สุจริต ว่า ดวงตรา ของ เขต บางรัก ที่ ประทับใน ใบ มอบอำนาจ เป็น ดวงตรา ที่ แท้จริง นอกจาก นี้ พัน ตำรวจตรี ชัจจ์กุลดิลก พยาน โจทก์ ก็ เบิกความ ว่า ใน การ สอบสวน เจ้าพนักงาน ที่ดินซึ่ง เป็น จำเลย ใน คดี นี้ ปรากฏ ว่า พวก นั้น ไม่ มี พิรุธ แต่ ประการใด พวก เขา เชื่อ ว่า ใบ มอบอำนาจ ที่ เป็น เหตุ ให้ เกิด คดี นี้เป็น ใบมอบอำนาจ อัน แท้จริง ข้อเท็จจริง จึง ฟัง ไม่ ได้ ว่า จำเลยที่ 1, ที่ 2, ที่ 3 และ ที่ 4 ประมาท เลินเล่อ กระทำ ละเมิด ต่อโจทก์ ฎีกา โจทก์ ข้อ นี้ ก็ ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษา ยืน’

Share