คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์ เพราะจำเลยผิดสัญญาที่โจทก์จ้างจำเลยไปพูดโฆษณาโดยใช้เครื่องวิทยุกระจายเสียงและเครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าเครื่องขยายเสียง เครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย แล้วผิดสัญญาไม่จัดการนำเครื่องไปเอง ดังนี้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยจะเป็นสัญญาเช่าหรือสัญญาจ้างทำของ ไม่ใช่ข้อสำคัญ ข้อสำคัญในคดีอยู่ที่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิดสัญญา
การที่จำเลยค้านว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงจากจำเลยไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้น แม้ฟ้องของโจทก์ตอนต้นจะกล่าวมีนัยดังจำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไรและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู่แต่อย่างใดดังนี้ ข้อค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยผู้เป็นเจ้าของร้านวิทยุโฆษณาให้ไปทำการโฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้เครื่องวิทยุกระจายเสียงพร้อมด้วยเครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย และจำเลยเป็นผู้ควบคุมการใช้เครื่อง จำเลยตกลงรับจ้าง โจทก์วางมัดจำ ๑๐๐ บาท ถึงวันนัดโจทก์ไปรับจำเลย ๆให้โจทก์ไปล่วงหน้าและเีรยกเงินค่าจ้างอีก ๘๐๐ บาท โจทก์ชำระเสร็จแล้ว จำเลยหาได้ปฏิบัติตามที่โจทก์ว่าจ้างไม่ จึงขอให้คืนเงิน ๙๐๐ บาท จำเลยให้การว่าความจริงโจทก์เช่าเครื่องขยายเสียและเครื่องทำไฟฟ้ามีกำหนด ๓ วันตามเอกสารท้ายฟ้อง โจทก์ตรวจรับสิ่งของที่เช่าจนได้ชำระราคาเสร็จ และว่าจะออกไปหารถบรรทุกเอาไปจำเลยไม่ได้ผิดนัดและต่อสู้ว่าโจทกไม่มีสิทธิสืบพยานแก้ไขเอกสารเป็นอย่างอื่น ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาเช่าหรือจ้างทำของหาใช่ข้อสำคัญไม่ ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิดสัญญา
ข้อที่จำเลยคัดค้านว่า ฟ้องโจทก์ว่าโจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงให้นายกัน แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้น กับฟ้องของโจทก์ในตอนต้นจะกล่าวมีนัยไปในทางที่จำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องในตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่า โจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไร แล้วจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใดข้อคัดค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น ส่วนข้อเท็จจริงนั้นฟังได้ตามพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ว่าจำเลยผิดสัญญา.
พิพากษายืน.

Share