แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลังจากจำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์แล้ว. แต่ยังไม่ถึงวันโอนตามที่กำหนดไว้ในสัญญานั้น. โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้บุคคลที่สามโดยกำหนดว่าโจทก์จะโอนที่พิพาทให้บุคคลที่สามในวันเดียวกันกับที่จำเลยจะต้องโอนที่พิพาทให้โจทก์. ถ้าโจทก์ผิดสัญญาโจทก์ต้องเสียเบี้ยปรับ 40,000 บาท. โจทก์ได้แจ้งเรื่องสัญญาและเบี้ยปรับให้จำเลยทราบแล้ว. ต่อมาเมื่อถึงกำหนดวันโอน จำเลยไม่ยอมโอนที่พิพาทให้โจทก์. โจทก์ถูกบุคคลที่สามปรับ 40,000บาท. จำเลยต้องชำระค่าเสียหาย 40,000 บาทนี้ให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรคสอง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย 40,000 บาทที่โจทก์ได้เสียเป็นเบี้ยปรับให้แก่ผู้ที่จะซื้อที่พิพาทนี้ต่อจากโจทก์ เพราะโจทก์ไม่อาจโอนที่พิพาทให้ได้ โดยเหตุที่จำเลยผิดสัญญาไม่โอนที่พิพาทให้โจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี และให้จำเลยชำระค่าเสียหาย 40,000 บาทด้วย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้นายสงุ่น โดยกำหนดจะโอนที่พิพาทให้ในวันเดียวกันกับที่จำเลยสัญญาว่าจะโอนที่พิพาทให้โจทก์ และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบก่อนกำหนดวันโอนที่พิพาทถึงเรื่องนี้และจำนวนเบี้ยปรับ 40,000 บาทที่โจทก์จะต้องให้แก่นายสงุ่นในกรณีที่โจทก์ผิดสัญญา จำเลยไม่เคยบอกเลิกสัญญากับโจทก์ ครั้นถึงกำหนดวันโอน จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมโอนที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ต้องเสียเบี้ยปรับ 40,000 บาทให้แก่นายสงุ่น แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าเสียหาย 40,000 บาทนี้เป็นค่าเสียหายจากพฤติการณ์พิเศษ การที่โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบถึงเรื่องนี้ก่อนวันที่จำเลยสัญญาจะไปโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา เป็นการให้จำเลยคาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าตามมาตรา 222วรรค 2 แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินจำนวนนี้แก่โจทก์ จำเลยหาต้องทราบหรือคาดเห็นถึงพฤติการณ์นี้ก่อนทำสัญญาไม่ พิพากษาแก้.