คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หลังจากจำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์แล้ว แต่ยังไม่ถึงวันโอนตามที่กำหนดไว้ในสัญญานั้น โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้บุคคลที่ 3 โดยกำหนดว่าโจทก์จะโอนที่พิพาทให้บุคคลที่ 3 ในวันเดียวกันกับที่จำเลยจะต้องโอนที่พิพาทให้โจทก์ ถ้าโจทก์ผิดสัญญาโจทก์ต้องเสียเบี้ยปรับ 40,000 บาท โจทก์ได้แจ้งเรื่องสัญญาและเบี้ยปรับให้จำเลยทราบแล้ว ต่อมาเมื่อถึงกำหนดวันโอน จำเลยไม่ยอมโอนที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ถูกบุคคลที่ 3 ปรับ 40,000 บาท จำเลยต้องชำระค่าเสียหาย 40,000 บาทนี้ให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรค 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย ๔๐,๐๐๐ บาท ที่โจทก์ได้เสียเป็นเบี้ยปรับให้แก่ผู้ที่จะซื้อที่พิพาทนี้ต่อจากโจทก์ เพราะโจทก์ไม่อาจโอนที่พิพาทให้ได้ โดยเหตุที่จำเลยผิดสัญญาไม่โอนที่พิพาทให้โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี และให้จำเลยชำระค่าเสียหาย ๔๐,๐๐๐ บาทด้วย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้นายสงุ่น โดยกำหนดจะโอนที่พิพาทให้ในวันเดียวกันกับที่จำเลยสัญญาว่าจะโอนที่พิพาทให้โจทก์ และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบก่อนกำหนดวันโอนที่พิพาทถึงเรื่องนี้และจำนวนเบี้ยปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท ที่โจทก์จะต้องให้แก่นายสงุ่นในกรณีที่โจทก์ผิดสัญญา จำเลยไม่เคยบอกเลิกสัญญากับโจทก์ ครั้นถึงกำหนดวันโอน จำเลยผิดสัญญาไม่ยอมโอนที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ต้องเสียเบี้ยปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท ให้แก่นายสงุ่น แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าเสียหาย ๔๐,๐๐๐ บาทนี้เป็นค่าเสียหายจากพฤติการณ์พิเศษ การที่โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบถึงเรื่องนี้ก่อนวันที่จำเลยสัญญาจะไปโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา เป็นการให้จำเลยคาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าตามมาตรา ๒๒๒ วรรค ๒ แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินจำนวนนี้แก่โจทก์ จำเลยหาต้องทราบหรือคาดเห็นถึงพฤติการณ์นี้ก่อนทำสัญญาไม่
พิพากษาแก้

Share