แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายจำเลยเคยขอเลื่อนคดี เพราะไม่มีพยานมาศาลโดยไม่ทราบเหตุขัดข้องมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีและกำชับให้จำเลยมาตามนัด ฝ่ายจำเลยก็ไม่มีผู้ใดมาตามนัดจะฟังได้ว่าทนายจำเลยจดวันนัดผิดและเมื่อมีการขอออกหมายเรียกพยานโดยระบุวันนัดผิด ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้ออกหมายตามนั้นได้ ก็ไม่เป็นเหตุผลที่จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวได้ เพราะการให้ถือเหตุทำนองนี้เป็นข้อแก้ตัวอาจเป็นช่องทางให้คู่ความประวิงคดีได้ง่าย ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานฝ่ายจำเลย และนัดฟังคำพิพากษาจึงเหมาะสมแก่รูปเรื่องแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองและบริวารเข้ามาอยู่ในที่ดินและบ้านของโจทก์โดยไม่มีสิทธิ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยทั้งสองขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปภายในเดือนเมษายน 2530 แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารกับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสองตกลงซื้อบ้านพร้อมที่ดินจากนางประจวบ มัธยมจันทร์ ต่อมานางประจวบขายโครงการหมู่บ้านให้โจทก์ โจทก์ต้องรับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาที่นาง*ประจวบทำไว้กับจำเลยทั้งสองโดยรับเงินค่าที่ดินและบ้านที่เหลือโดยหักค่าใช้จ่ายที่จำเลยก่อสร้างเพิ่มเติมออกก่อน และมีหน้าที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านให้จำเลยทั้งสอง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองเพราะมิได้ทำละเมิดต่อโจทก์ขอบังคับโจทก์รับเงินและโอนที่ดินพร้อมบ้านให้จำเลยทั้งสอง หากไม่ยินยอมให้ถือเอาคำพิพากษาแทนเจตนา
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ซื้อที่ดินและบ้านจากนางประจวบ นางประจวบไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทแม้จะทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและบ้านพิพาทให้จำเลยทั้งสองก็ไม่มีผลผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นคนภายนอกและรับโอนมาโดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยสุจริต จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิบังคับโจทก์ให้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทให้แก่จำเลยฟ้องแย้งขาดอายุความซื้อขาย 2 ปี ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้ายและนัดสืบพยานจำเลยวันเดียวกัน แต่เมื่อถึงวันนัด หลังจากการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีพยานมาศาลและไม่ทราบเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นอนุญาต โดยกำชับว่าถ้านัดหน้าจำเลยไม่มาอีก จะงดสืบพยานจำเลย พอถึงวันนัด ฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาลชั้นต้นจึงถือว่าจำเลยทั้งสองไม่ติดใจสืบพยานและสั่งงดสืบพยานจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินและบ้านพิพาท โดยให้จำเลยทั้งสองส่งมอบคืนให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อยและให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 2,500 บาทนับแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2530 เป็นต้นไป จนกว่าจะส่งมอบที่ดินและบ้านแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีพยานมาศาล โดยไม่ทราบเหตุขัดข้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ครั้งหนึ่งแล้ว โดยกำชับว่าถ้านัดหน้าจำเลยไม่มาอีกจะงดสืบพยานจำเลยทั้งสอง ครั้นถึงวันนัดปรากฏว่า ฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาลชั้นต้นจึงถือว่าจำเลยทั้งสองไม่ติดใจสืบพยาน สั่งงดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา ทนายความของจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าที่ฝ่ายจำเลยไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย นั้น เพราะทนายจำเลยจดวันนัดผิด คือแทนที่จะจดเป็นวันที่ 7 กรกฎาคม 2532จดเป็นวันที่ 17 กรกฎาคม 2532 ในการขอหมายเรียกพยานมาสืบก็ระบุเป็นวันที่ 17 กรกฎาคม 2532 ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้ออกหมายเรียกตามนั้น ขอให้ศาลอนุญาตให้ดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไปแต่ศาลชั้นต้นเห็นว่า การจดวันนัดพิจารณาผิดพลาดไม่เป็นข้อที่จะแก้ตัวได้ จึงมีคำสั่งยกคำร้อง แล้วพิพากษาคดีไปตามนัด คดีมีปัญหาตามฎีกาจำเลยทั้งสองเพียงว่า กรณีมีเหตุสมควรให้ทำการสืบพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยหรือไม่เห็นว่า ทนายจำเลยเคยขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีพยานมาศาลโดยไม่ทราบเหตุขัดข้องมาครั้งหนึ่งแล้วและเมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ และกำชับให้จำเลยมาตามนัดแล้ว ฝ่ายจำเลยก็ไม่มีผู้ใดมาตามนัด แม้จะฟังได้ว่าทนายจำเลยจดวันนัดผิดและเมื่อมีการขอออกหมายเรียกพยานโดยระบุวันนัดผิด ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้ออกหมายตามนั้นได้ ก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุผลที่จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวได้ เพราะการให้ถือเหตุทำนองนี้เป็นข้อแก้ตัวอาจเป็นช่องทางให้คู่ความประวิงคดีได้ง่าย ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานฝ่ายจำเลยแล้ว นัดฟังคำพิพากษานั้น จึงเหมาะสมแก่รูปเรื่องแล้วส่วนข้อที่จำเลยทั้งสองฎีกามาด้วยว่า ถ้าอนุญาตให้สืบพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยแล้ว รูปคดีจะเปลี่ยนแปลงไปและอาจบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองได้นั้นเห็นว่า ในเมื่อพยานหลักฐานมีความสำคัญสำหรับรูปคดีของจำเลย จำเลยทั้งสองก็จำต้องเอาใจใส่ระมัดระวังในเรื่องวันนัดและตระเตรียมพยานหลักฐานมาสืบให้ตรงตามนัดจึงจะชอบด้วยเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นสมควรให้ทำการสืบพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน