แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งโรงงานสีข้าวก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยตั้งโรงงานโดยได้รับอนุญาตอยู่แล้ว เพียงแต่จำเลยเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่ใช้ในโรงงานเดิมเท่านั้น ไม่ถือว่าตั้งโรงงานขึ้นใหม่ ดังนี้ จำเลยจึงไม่ผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่รับอนุญาต
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้ตั้งโรงงานคือโรงสีข้าวเล็ก โดยใช้เครื่องจักร ๑ โรง ก่อนได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีตามกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๒,๑๙ พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๗ พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๔๘๒ บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในท้องที่บางจังหวัด(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ และสั่งจำเลยหยุดดำเนินการจนกว่าจะได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแล้วตามทะเบียนเลขที่ ก. ๔๙๑ ร.อ.
ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยแถลงรับว่า ใบอนุญาตที่ขอให้อำเภอส่งมาเป็นพยานในคดีนี้นั้น เป็นใบอนุญาตสำหรับเครื่องสีเก่า เครื่องเก่าขายให้คนอื่นไปแล้วจึงซื้อเครื่องใหม่แทน จำเลยอาศัยใบอนุญาตเก่านี้สำหรับเครื่องใหม่ จำเลยใช้สถานที่เดิมทำการสีข้าวด้วยเครื่องใหม่นี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย พอวินิจฉัยได้แล้ว มีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าเครื่องจักรเป็นส่วนสำคัญ ใบอนุญาตนี้ใช้เฉพาะเครื่องสีเก่าที่ขายไปแล้วเท่านั้น จะนำมาใช้เป็นใบอนุญาตสำหรับเครื่องสีใหม่ไม่ได้ จำเลยตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาว่าจำเลยมีคามผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๖, ๑๙ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๗ พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๔๘๒ บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในบางจังหวัด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ ให้ปรับจำเลย ๓๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙, ๓๐ กับให้จำเลยหยุดดำเนินการจนกว่าจะได้รับอนุญาต
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า “โรงงาน” นั้น หมายถึงสถานที่ที่ประกอบการค้าหาประโยชน์ จำเลยมิได้ย้ายสถานที่ จึงมิใช่เป็นการตั้งโรงงานใหม่ และสถานที่ที่จำเลยซื้อเครื่องจักรใหม่แทนเครื่องเก่านั้น ได้รับอนุญาตแล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ มีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย จึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงแล้วว่า เดิมจำเลยเปิดโรงงานสีข้าวโดยใช้เครื่องจักรและได้ขึ้นทะเบียนโรงงานไว้แล้วโดยถูกต้อง ต่อมาจำเลยขายเครื่องจักรเก่า แล้วภายหลังได้ซื้อเครื่องจักรใหม่และใช้สถานที่เดิมเปิดทำการสีข้าวอีก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งโรงงานก่อนได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้รับอนุญาตและได้ขึ้นทะเบียนโรงงานไว้แล้วโดยชอบ จำเลยเพียงแต่เปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานโดยใช้สถานที่เดิม มิใช่จำเลยตั้งโรงงานขึ้นใหม่ จำเลยจึงไม่ได้กระทำผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นให้ยกฟ้องโจทก์.