คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปจนสิ้นกระแสความ แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ศาลชั้นต้นเพียงแต่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเท่านั้น ถือว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ปฏิบัติการอันจะพึงให้ถือได้ว่าผู้ร้องละทิ้งคดี ดังนั้น การที่ผู้ร้องไม่ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาภายใน 15 วัน เมื่อพ้นอายุความฎีกาแล้วจึงไม่เป็นเหตุที่จะให้ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีของผู้ร้องได้.

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยใช้เงินโจทก์ ผู้ร้องร้องขอเฉลี่ยหนี้
ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานผู้ร้อง ๑ ปากแล้วสั่งงดสืบพยานผู้ร้อง และยกคำร้องขอเฉลี่ยหนี้ นายสุทธิ์ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปจนสิ้นกระแสความ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าผู้ร้องละทิ้งคดี เพราะผู้ร้องไม่ขอให้ศาลดำเนินคดีภายใน ๑๕ วันนับแต่วันครบฎีกา ขอให้ยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่าศาลไม่ได้กำหนดวันที่จะดำเนินคดีต่อไปไว้ เป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่จะขอให้ศาลดำเนินคดีต่อไป สั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้อง
ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นสั่งพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นหน้าที่ของศาล ศาลชั้นต้นจะต้องจัดให้มีการพิจารณาคดีขึ้น ไม่ใช่หน้าที่ของคู่ความ พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นเพียงแต่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเท่านั้น ยังมิได้ปฏิบัติการอันพึงถือได้ว่าผู้ร้องละทิ้งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๔(๒) จึงไม่ชอบที่จะจำหน่ายคดีของผู้ร้อง
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.

Share