คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5512/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายที่เกิดกับ ต. เป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ผู้คัดค้านเพียงผู้เดียวและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้เช่นนี้ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียวจึงชอบแล้ว ส่วนที่ผู้คัดค้านขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องนั้นเมื่อผู้คัดค้านไม่ได้ขอมาในคำคัดค้านก็ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนางโชษิตา เสนานิกรมผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของเรือเอกปรีชา ปรีดีดิลก ผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่า ผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบของเรือเอกปรีชา ปรีดีดิลก ผู้ตาย และมีบุตรด้วยกัน 2 คน ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่ผู้คัดค้านเพียงผู้เดียวและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกผู้ร้องไม่มีสิทธิรับมรดกจึงไม่มีส่วนได้เสีย ขอให้เพิกถอนคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของเรือเอกปรีชาผู้ตาย
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบของเรือเอกปรีชา ปรีดีดิลก ผู้ตาย แต่ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมพินัยกรรมตามคำร้องเป็นพินัยกรรมปลอม ทรัพย์สินต่าง ๆซึ่งปรากฏชื่อผู้คัดค้านและชื่อผู้ตายเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งจะต้องแบ่งแก่ทายาททุกคน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้ดังที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้าง ดังนั้น เมื่อผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้เช่นนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียวจึงชอบแล้ว ส่วนที่ผู้คัดค้านขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องนั้นเมื่อผู้คัดค้านไม่ได้ขอมาในคำคัดค้านก็ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share