คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โฮเต็ล โรงมหรศพแลครัวไฟ ถึงแม้ปลูกอยู่ในที่ซึ่งเช่าจากผู้อื่นก็นับว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ การวินิจฉัยว่าอะไรเป็นหรือไม่เป็นส่วนควบต้องวิเคราะห์ตามมาตรา 107-109 ซึ่งไม่เกี่ยวกับปัญหาว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ ผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์ของผู้เช่า คงมีบุริมสิทธิเหนือสังหาริมทรัพย์เท่านั้น วิธีพิจารณาความแพ่ง ขัดทรัพย์

ย่อยาว

คดีได้ความว่า เดิมจำเลยเช่าที่ดินของกรมรถไฟหลวงไว้แห่งหนึ่งแล้วได้ปลูกสร้างโฮเต็ล โรงมหรศพและครัวไฟลงในที่ดินนั้น ต่อมาจำเลยได้เอาโฮเต็ลไปจำนองไว้กับโจทก์ โรงมหรศพและครัวไฟเอาไปขายฝากไว้กับ ร. ผู้ขัดทรัพย์แล้วจำเลยผิดสัญญา เจ้าหนี้จึงฟ้องแลนำยึดโฮเต็ลโรงมหรศพและครัวไฟออกขายทอดตลาดและเจ้าหนี้ทั้งสองนั้นต่างเป็นผู้รับซื้อไว้
กรมรถไฟหลวงซึ่งเป็นเจ้าหนี้ค่าเช่าจำเลยตามคำพิพากษาคดีแดงที่ ๓๙/๒๔๗๓ ยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิขอรับชำระหนี้จากเงินที่ขายทอดตลาดนั้นก่นอ
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์เห็นว่าโฮเต็ลโรงมหรศพและครัวไฟเป็นอสังหาริมทรัพย์ผู้ร้องมีบุริมสิทธิได้แต่เพียงเหนือสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา ๒๕๙ พิพากษาให้ยกคำร้อง
กรมรถไฟหลวงผู้ร้องฎีกาว่าสิ่งที่ปลูกสร้างเหล่านี้เป็นส่วนควบติดอยู่กับที่ดินชั๋วคราวตามมาตรา ๑๐๙ จึงเป็นสังหาริมทรัพย์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โฮเต็ล โรงมหรศพและครัวไฟโดยสภาพของมันเองก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ของมันเองก็เป็นอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว ส่วน ม.๑๐๗-๑๐๙ เป็นปัญหาเรื่องอะไรเป็นส่วนควบของทรัพย์หรือไม่ ฉะนั้นสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้จะเป็นส่วนควบหรือไม่ จึงไม่เกี่ยวกับปัญหาเรื่องอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ พิพากษาให้ยกฎีกาผู้ร้อง

Share