แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขอให้จำหน่ายคดีพร้อมไปในเวลาพิพากษาคดีก็ได้. โจทก์นำพยานมาสืบไม่ได้โดยไม่ทราบว่าพยานไปอยู่ที่ใดดังนี้ศาลพิพากษายกฟ้องเสียได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันลักกระบือหรือมิฉะนั้นจำเลยบังอาจรับกระบือไว้โดยรู้ว่าเป็นของผู้ร้าย ในวันนัดพิจารณาครั้งที่ ๒ ซึ่งต่อมาจากวันนัดครั้งแรกเดือนเศษ โจทก์แถลงเหตุขัดข้องว่าไม่สามารถส่งหมายให้แก่พยานสำคัญได้ (เช่นเดียวกับที่ขอเลื่อนในนัดแรก) ไม่สามารถนำพยานสำคัญมาสืบและไม่ติดใจขอเลื่อนคดีต่อไป พยานอื่นก็ไม่ขอสืบ ขอให้จำหน่ายคดีชั่วคราวจนกว่าโจทก์จะได้พยานสำคัญมา แล้วจะฟ้องคดีขึ้นมาใหม่ ฝ่ายจำเลยคัดค้าน ขอให้ดำเนินการพิจารณาไปและโจทก์ไม่ติดใจถอนฟ้อง คู่ความต่างไม่ขอสืบพยาน ให้ศาลสั่งไปตามกระบวนความ ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานสืบแสดงว่าจำเลยทำผิดดังฟ้อง จึงพิพากษาให้ยกคำขอให้จำหน่ายคดีของโจทก์และให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า ศาลล่างวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้ฝ่าฝืนมาตรา ๑๘๒ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา เพราะยังอยู่ในระหว่างพิจารณาจะพิพากษาไม่ได้ โดยมิได้สั่งคำร้องขอจำหน่ายคดีของโจทก์ และคดีของโจทก์มีหลักฐานพอเพราะได้ทำการสอบสวนตามมาตรา ๑๒๐ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งคำร้องไปพร้อมกับคำพิพากษาได้ มาตรา ๑๘๒ ที่โจทก์อ้างฟังไม่ขึ้น, และมาตรา ๑๒๐ นั้น ก็ไม่มีข้อใดแสดงว่าคดีโจทก์มีหลักฐานพอที่จะลงโทษจำเลยได้ เพราะคดีที่อัยการเป็นโจทย์ฟ้องนั้น ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะพยานหลักฐานไม่พอก็มี จึงพิพากษายืน