คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5468/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตัวแทนโจทก์ในการบังคับคดียื่นคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์ของจำเลยและด้วยความสำคัญผิด ตัวแทนโจทก์ได้ระบุในคำแถลงด้วยว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว ทั้งที่ความจริงจำเลยยังชำระไม่ครบ การยื่นคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์จึงไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของโจทก์ ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิเด็ดขาดในการบังคับคดีจำเลย โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนข้อความที่ระบุว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้วได้เพื่อให้เป็นไปตามความจริง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยอุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 โจทก์นำยึดที่ดินของจำเลยเพื่อบังคับคดีระหว่างประกาศขายทอดตลาด ตัวแทนโจทก์ในการบังคับคดียื่นคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์ โดยระบุว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน โจทก์ยื่นคำร้องว่า ตัวแทนโจทก์ยื่นคำแถลงโดยสำคัญผิด ขอถอนข้อความในคำแถลงที่ระบุว่าจำเลยได้นำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว
จำเลยคัดค้านว่า จำเลยชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงถอนการยึดโดยสละสิทธิในการบังคับคดี ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า อนุญาตให้โจทก์ถอนข้อความในคำแถลงที่ระบุว่า จำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ว่า จำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ คงมีปัญหาตามฎีกาจำเลยว่า โจทก์สละสิทธิเด็ดขาดในการบังคับคดีเอาจากจำเลยทั้งหมด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 295(2) ทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอถอนข้อความในคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์หรือไม่ เห็นว่าเหตุที่ตัวแทนโจทก์ยื่นคำแถลงขอถอนข้อความที่ระบุว่า จำเลยนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ก็เนื่องจากความสำคัญผิดของตัวแทนโจทก์ว่า โจทก์ได้รับชำระหนี้จากจำเลยแล้ว การยื่นคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์จึงไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิเด็ดขาดในการบังคับคดีจำเลยโจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนข้อความที่ระบุว่า จำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้วได้ เพื่อให้เป็นไปตามความจริง

Share