แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเรื่องขายฝากแม้ไปขอแล้ว ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ผู้ขายฝากก็คงต้องฟ้องขอไถ่ภายในกำหนด 10 ปี
ในเรื่องที่ผู้ซื้อฝากไม่ยอมให้ไถ่ ผู้ขายฝากมาฟ้องเมื่อเกิน 10 ปี นับแต่ขายฝากนั้นผู้ขายฝากจะอ้างว่า ผู้รับขายฝากใช้สิทธิ์โดยไม่สุจจริตมาเป็นประโยชน์แก่คดีของตนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องไม่ใช้สิทธิ์ของตนเอง
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ที่นาและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มาขอไถ่ภายในกำหนด ๑๐ ปีตามสัญญา โจทก์จึงไม่มีสิทธิ์ขอไถ่
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้ไปขอไถ่ภายใน ๑๐ ปี ไม่มีสิทธิ์ฟ้อง และแม้จะฟังว่าได้ไปขอไถ่ดังที่ศาลชั้นต้นฟังมา โจทก์ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะขอไถ่ในบัดนี้ได้ เพราะการที่โจทก์ไปพูดขอไถ่จากจำเลยนั้น เรียกได้เพียงว่า โจทก์ไปขอจะใช้สิทธิ์ไถ่เท่านั้น ยังหาได้เรียกว่าได้ใช้สิทธิ์ไถ่ไม่ เมื่อจำเลยไม่ให้ไถ่ด้วยประการใด ๆ โจทก์ก็ต้องฟ้องบังคับตามสิทธิ์ภายใน ๑๐ ปี การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เรียกว่าฟ้องเพื่อขอใช้สิทธิ์ไถ่นั้นเอง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ขอใช้สิทธิ์ไถ่เมื่อเกิน ๑๐ ปีแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้แม้จะปรากฏว่า ผู้รับฝากบิดพริ้วไม่ยอมให้ไถ่ก็ดี ผู้ขายฝากก็ต้องฟ้องของไถ่ภายในกำหนดอายุสัญญาซึ่งในเรื่องนี้มีกำหนด ๑๐ ปี เพราะกฎหมายบัญญัติห้ามมิให้ใช้สิทธิ์ไถ่เกินกำหนดดังที่ปรากฏใน ป.ม.แพ่งฯ ม.๔๙๔ ๔๙๕, ๔๙๖ และคดีนี้จะยกการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจจริตมาปรับไม่ได้ เพราะโจทก์ละเลยไม่ใช้สิทธิ์ตนเอง จึงพิพากษายืน