คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5435/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้เช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือเช็คผู้ถือจะถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว ก็ยังคงเป็นเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 และย่อมโอนแก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับโอนเช็คดังกล่าวมาภายหลังถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และมีอำนาจฟ้องให้ผู้สั่งจ่ายรับผิดชดใช้เงินตามเช็คได้โดยไม่จำต้องนำเช็คไปขึ้นเงินอีกครั้งหนึ่งเสียก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายรับผิดชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย รวมกันจำนวน 53,726 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าแชร์ให้แก่ บ.หลังจากเช็คถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว จำเลยได้ผ่อนชำระเงินตามเช็คให้บ.จนครบ และขอเช็คคืน ต่อมาโจทก์กับ บ.ร่วมกันฉ้อฉล โดยมอบเช็คให้โจทก์มาฟ้องคดีนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ให้นางบุญยง ศิลาทรินทร์ เมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดใช้เงิน นางบุญยงขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค ต่อมานางบุญยง โอนเช็คพิพาทให้โจทก์เห็นว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือย่อมโอนแก่กันได้โดยการส่งมอบ แม้เช็คพิพาทนางบุญยงจะขึ้นเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ตาม แต่เช็คพิพาทก็ยังเป็นเช็คซึ่งจำเลยยังคงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 เมื่อโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทจากนางบุญยง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และได้รับโอนสิทธิในเช็คพิพาทจากนางบุญยง โดยโจทก์ไม่จำต้องนำเช็คไปขึ้นเงินอีกครั้งหนึ่งก็มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินตามเช็คได้ แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยยังมิได้ชำระเงินตามเช็คให้นางบุญยง และฟังไม่ได้ว่านางบุญยง โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉล จำเลยต้องชดใช้เงินตามเช็คให้โจทก์
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share