คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5422/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎบินเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2534 นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิจารณาเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้วเห็นควรรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้โฆษณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และโจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านลงวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ถือได้ว่านายทะเบียนได้มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มีผลใช้บังคับกรณีจึงต้องด้วยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534มาตรา 119(2) ซึ่งบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 ต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุด โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของซึ่งมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎ จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎ เป็นการแอบอ้างเครื่องหมายการค้าของโจทก์และลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่สุจริต เมื่อโจทก์ยื่นคำคัดค้าน นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ยกคำคัดค้านของโจทก์ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งมีสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นดีกว่าจำเลย โจทก์ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้ตามมาตรา 41(1) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2474 โจทก์มีอำนาจฟ้อง เครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นรูปมงกุฎในลักษณะประดิษฐ์ห้ายอด มีปีกประกอบทั้งด้านซ้ายและขวา และมีอักษรไทยประดิษฐ์คำว่า “ตรามงกุฎบิน” อยู่ข้างล่าง ทั้งหมดอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมจตุรัสสองชั้นทึบยื่นขอจดทะเบียนใช้กับสินค้าจำพวก 1 รายการสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ส่วนเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปมงกุฎในลักษณะประดิษฐ์ห้ายอดอยู่ในกรอบวงกลมสองชั้นโดยมีอักษรไทยคำว่าSIAMCITYCEMENTCO.,LTD. วางอยู่ระหว่างวงกลมชั้นนอกและชั้นในยื่นขอจดทะเบียนใช้กับสินค้าจำพวก 17 ชนิดสินค้าปูนซีเมนต์ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยและของโจทก์มีสาระสำคัญอยู่ที่มงกุฎห้ายอด ประชาชนผู้ซื้อสินค้าอาจเรียกขานว่าตรามงกุฎแม้จะมีข้อแตกต่างอยู่บ้างตรงที่รูปเครื่องหมายการค้าของจำเลยมีรูปปีกอยู่ข้างมงกุฎทั้งสองด้าน ก็เป็นเพียงส่วนประกอบที่ไม่สำคัญมากนัก ส่วนอักษรไทยคำว่า ตรามงกุฎบินก็มีขนาดเล็ก ไม่ใช่ลักษณะเด่นไม่เป็นสาระสำคัญแก่การสังเกตประกอบกับเครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่ปรากฏข้อความหรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่าสินค้าน้ำยาเคมีใช้ผสมปูนซีเมนต์นั้นเป็นของจำเลย แม้จำเลยจะใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ซึ่งเป็นสินค้าในจำพวก 1 ต่างกับสินค้าปูนซีเมนต์ของโจทก์ซึ่งเป็นสินค้าในจำพวก 17 แต่ก็เป็นวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและเป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าปูนซีเมนต์ของโจทก์นอกจากนี้โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎมานานจำเลยเพิ่งยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหลังจากที่โจทก์ได้จดทะเบียนมาแล้ว 20 ปี จำเลยเคยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารูปนกอินทรีเช่นเดียวกับรูปนกอินทรีตามเครื่องหมายการค้าของโจทก์ แต่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนให้และจำเลยเคยใช้เครื่องหมายการค้ารูปนกอินทรีเช่นเดียวกับรูปนกอินทรีของโจทก์กับสินค้าของจำเลยจนถูกฟ้องในข้อหาเลียนเครื่องหมายการค้าและถูกศาลลงโทษไปแล้ว เมื่อได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปนกอินทรี รูปเพชร และรูปสิงโตใช้กับสินค้าปูนซีเมนต์ก็ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปนกอินทรีเพชรมีปีก และสิงโตคู่เหยียบลูกโลกใช้กับสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยทำให้เครื่องหมายการค้าของจำเลยคล้ายกับของโจทก์เป็นคู่ ๆ โดยมุ่งหมายที่จะอาศัยแอบอ้างชื่อเสียงจากเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนอาจทำให้สาธารณชนกับสับสนหลงผิดว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าตรา “มงกุฎ”โดยได้จดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าจำพวก 17 ประเภทวัสดุก่อสร้างหรือการตกแต่งต่าง ๆ มานานกว่า 20 ปีแล้ว ตามทะเบียนเลขที่ 41134และ 43194 ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2534 จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารูป “มงกุฎ” และมีตัวอักษรกำกับใต้รูปดังกล่าวว่า “ตรามงกุฎบิน” ใช้กับสินค้าจำพวก 1 ประเภทน้ำยาเคมีผสมซีเมนต์ตามคำขอเลขที่ 212972 โดยจำเลยแอบอ้างเอาเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยยกคำคัดค้านของโจทก์และแจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2535 ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และห้ามจำเลยกับบริวารใช้เครื่องหมายการค้าตรา “มงกุฎ” ไม่ว่ารูปแบบหรือลักษณะใดอีกต่อไป
จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้ลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปมงกุฎอยู่ในกรอบวงกลมสองชั้นมีอักษรไทย มีอักษรไทยคำว่า”บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด” และมีอักษรโรมันคำว่า”SIAM CITY CEMENT CO., LTD.” อยู่ในระหว่างวงกลมชั้นนอกและชั้นใน แต่เครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นรูปมงกุฎมีปีกสองด้านมีอักษรไทยคำว่า “มงกุฎบิน” อยู่ด้านล่าง ทั้งหมดอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมจตุรัสสองชั้น จึงแตกต่างกันทั้งยังใช้กับสินค้าต่างจำพวกกัน ไม่ทำให้สาธารณชนทั่วไปสับสนหรือหลงผิด และโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 90 วัน นับแต่ทราบคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง แต่เครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยของนายทะเบียนต่อคณะกรรมการภายใน 90 วันตามมาตรา 37 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามมาตรา 38 วรรคท้าย ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยในผล พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของและได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎไว้เพื่อใช้กับสินค้าจำพวก 17 ประเภทปูนซีเมนต์เมื่อวันที่28 กรกฎาคม 2513 และวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2514 ตามคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 69509 และ 71453 ครั้นวันที่18 มีนาคม 2534 จำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเลขที่ 212972 เป็นรูปตรามงกุฎบิน สำหรับสินค้าจำพวก 1 ประเภทน้ำยาเคมีผสมซีเมนต์ และนายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับคำขอดังกล่าวไว้ โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่าเหมือนหรือคล้ายอันเป็นการลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าวินิจฉัยคำคัดค้านของโจทก์และแจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2535 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาข้อแรกของโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่เห็นว่า จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎบินเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2534 นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิจารณาเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้วเห็นควรรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้โฆษณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และโจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านลงวันที่ 4 ตุลาคม 2534ถือได้ว่านายทะเบียนได้มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์2535 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534มีผลใช้บังคับกรณีจึงต้องด้วยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534 มาตรา 119(2) ซึ่งบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 ต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุดและโจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของซึ่งมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎ จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎบินเป็นการแอบอ้างเครื่องหมายการค้าของโจทก์และลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่สุจริต เมื่อโจทก์ยื่นคำคัดค้านนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ยกคำคัดค้านของโจทก์จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งมีสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นดีกว่าจำเลย โจทก์ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้ตามมาตรา 41(1) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ต้องใช้พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 119(1)และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยของนายทะเบียนต่อคณะกรรมการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามมาตรา 38 วรรคท้ายแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
ปัญหาต่อไปมีว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกันจนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนหรือไม่ซึ่งเป็นปัญหาที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยไว้ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก่อน เห็นว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 212972เป็นรูปมงกุฎในลักษณะประดิษฐ์ห้ายอด มีปีกประกอบทั้งด้านซ้ายและขวาและมีอักษรไทยประดิษฐ์คำว่า “ตรามงกุฎบิน” อยู่ข้างล่างทั้งหมดอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมจตุรัสสองชั้นทึบ ยื่นขอจดทะเบียนใช้กับสินค้าจำพวก 1 รายการสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ส่วนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามคำขอเลขที่ 69509 และ 71453เป็นรูปมงกุฎในลักษณะประดิษฐ์ห้ายอดอยู่ในกรอบวงกลมสองชั้นโดยมีอักษรไทยคำว่า SIAM CITY CEMENT CO.,LTD. วางอยู่ระหว่างวงกลมชั้นนอกและชั้นในยื่นขอจดทะเบียนใช้กับสินค้าจำพวก 17 ชนิดสินค้าปูนซีเมนต์ เมื่อพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยและของโจทก์มีสาระสำคัญอยู่ที่มงกุฎห้ายอด ประชาชนผู้ซื้อสินค้าอาจเรียกขานว่าตรามงกุฎ แม้จะมีข้อแตกต่างอยู่บ้างตรงที่รูปเครื่องหมายการค้าของจำเลยมีรูปปีกอยู่ข้างมงกุฎทั้งสองด้าน ก็เป็นเพียงส่วนประกอบที่ไม่สำคัญมากนัก ส่วนอักษรไทยคำว่า ตรามงกุฎบิน ก็มีขนาดเล็ก ไม่ใช่ลักษณะเด่น ไม่เป็นสาระสำคัญแก่การสังเกต ประกอบกับเครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่ปรากฏข้อความหรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่าสินค้าน้ำยาเคมีใช้ผสมปูนซีเมนต์นั้นเป็นของจำเลย แม้จำเลยจะใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ซึ่งเป็นสินค้าในจำพวก 1 ต่างกับสินค้าปูนซีเมนต์ของโจทก์ซึ่งเป็นสินค้าในจำพวก 17 แต่ก็เป็นวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและเป็นสินค้าที่เกี่ยงเนื่องกับสินค้าปูนซีเมนต์ของโจทก์ นอกจากนี้โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรามงกุฎตั้งแต่ปี 2513 จำเลยเพิ่งยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหลังจากที่โจทก์ได้จดทะเบียนมาแล้ว20 ปี และตามที่โจทก์นำสืบประกอบเอกสารหมาย จ.3 ก็ปรากฏว่าจำเลยเคยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารูปนกอินทรีเช่นเดียวกับรูปนกอินทรีตามเครื่องหมายการค้าของโจทก์แต่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนให้ และจำเลยเคยใช้เครื่องหมายการค้ารูปนกอินทรีเช่นเดียวกับรูปนกอินทรีของโจทก์กับสินค้าของจำเลยจนถูกฟ้องในข้อหาเลียนเครื่องหมายการค้าและถูกศาลลงโทษไปแล้วอีกทั้งยังได้ความว่า โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปนกอินทรี รูปเพชร และรูปสิงโตใช้กับสินค้าปูนซีเมนต์ก็ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรูปนกอินทรี เพชรมีปีก และสิงโตคู่เหยียบลูกโลก ใช้กับสินค้าน้ำยาเคมีผสมปูนซีเมนต์ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยทำให้เครื่องหมายการค้าของจำเลยคล้ายกับของโจทก์เป็นคู่ ๆ โดยมุ่งหมายที่จะอาศัยแอบอ้างชื่อเสียงจากเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้ศาลชอบที่จะเพิกถอนการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยและห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้
พิพากษากลับ ให้จำเลยเพิกถอนการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 212972 จากกระทรวงพาณิชย์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าตรามงกุฎบินดังกล่าว

Share