แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ลักษณะของหลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2 ตัดแล้วจำนวน350 หลอด และกำลังตัดขณะเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เท่ากับความยาวของหลอดกาแฟที่ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด ที่สายลับล่อซื้อมาได้จากห้องพักที่จำเลยทั้งสองอยู่ด้วยกัน ลักษณะของหลอดกาแฟที่ตัดไม่สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์อื่นใดได้นอกจากใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนแบ่งขายให้แก่ผู้ซื้อเท่านั้นเมื่อจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายการที่จำเลยที่ 2 ตัดหลอดกาแฟเพื่อให้จำเลยที่ 1 ไว้ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนขายแก่ผู้ซื้อ จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ขณะกระทำความผิดแล้วแม้ไม่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1ในการขายเมทแอมเฟตามีน แต่หลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2ตัดไว้สามารถนำไปใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนเพื่อขายการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการสนับสนุนการมีไว้เพื่อขายของจำเลยที่ 1
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2539 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันมีไว้เพื่อขายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 จำนวน 27 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 0.687 กรัม ซึ่งเป็นการมีไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดและจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันขายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด เป็นเงิน 180 บาท โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลไม้งาม อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้เพื่อขายและได้ขายไปดังกล่าวและเงินจำนวน 180 บาทซึ่งเป็นของเจ้าพนักงานตำรวจที่ใช้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยทั้งสองดังกล่าว กับยึดได้กรรไกร 1 อัน ไฟแช็ก 2 อันธูป 2 ดอก และหลอดเครื่องดื่ม 350 หลอด ซึ่งเป็นเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเลยทั้งสองได้ใช้กระทำความผิดเป็นของกลางเมทแอมเฟตามีนของกลางหมดไปในการตรวจพิสูจน์ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 4, 13 ทวิ, 62, 89, 106 ทวิ, 116 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 33 ริบกรรไกร ไฟแช็ก และหลอดเครื่องดื่มของกลาง
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ (ที่ถูกมาตรา 116 ด้วย)การกระทำเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ฐานร่วมกันขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 จำคุกคนละ 6 ปีจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปีริบของกลาง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 67 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำเลยที่ 2มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 67 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุน การมีไว้เพื่อขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 2ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อสายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด จากห้องพักที่จำเลยทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วก็นำมามอบให้เจ้าพนักงานตำรวจที่แอบซุ่มดูอยู่เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าไปที่ห้องพักของจำเลยทั้งสอง พบจำเลยที่ 2กำลังนั่งตัดหลอดเครื่องดื่มหรือหลอดกาแฟ และมีหลอดกาแฟที่ถูกตัดแล้วจำนวน 350 หลอดวางอยู่ข้างหน้า และเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 25 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกวางอยู่บนชั้นวางของพร้อมกระเป๋าสตางค์ของจำเลยที่ 1ในกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวพบธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนไปได้ก่อนหน้านี้ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2ว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า ลักษณะของหลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2ตัดแล้วจำนวน 350 หลอด และกำลังตัดขณะเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เท่ากับความยาวของหลอดกาแฟที่ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด ที่สายลับล่อซื้อมาได้จากห้องพักที่จำเลยทั้งสองอยู่ด้วยกัน ตามที่จ่าสิบตำรวจประกอบ เผือกหอม ผู้เข้าจับกุมพยานโจทก์เบิกความถึงลักษณะของหลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2 ตัดมีความยาวเพียงประมาณ1 เซนติเมตรเช่นนี้ ไม่สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์อื่นใดได้ นอกจากใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนแบ่งขายให้แก่ผู้ซื้อเท่านั้น ซึ่งในการตรวจค้นห้องพักของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเจ้าพนักงานตำรวจยังตรวจพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 25 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกอีก แสดงว่าหลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2 ตัดออกมีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตรจำนวนถึง 350 หลอด นั้นก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวนที่ตรวจพบดังกล่าวขายให้แก่ผู้ซื้อนั่นเอง การที่จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 25 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อขาย ตลอดเวลาที่ครอบครองเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่ 1 ก็เป็นความผิดฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ทุกขณะ ดังนั้นที่จำเลยที่ 2 ตัดหลอดกาแฟเพื่อให้จำเลยที่ 1 ไว้ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนขายแก่ผู้ซื้อในขณะที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ขณะกระทำความผิดแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 2จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ส่วนที่จำเลยที่ 2ฎีกาว่าการที่จำเลยที่ 2 ตัดหลอดกาแฟไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1เพื่อขายเมทแอมเฟตามีนนั้น เห็นว่า หลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2ตัดจำนวน 350 หลอด แม้จะไม่ได้เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการขายเมทแอมเฟตามีนแก่สายลับที่ล่อซื้อไปจำนวน 2 เม็ด ดังที่จำเลยที่ 2 ฎีกาก็ตาม แต่หลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2 ตัดไว้ดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการบรรจุเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการขายที่ตรวจพบจำนวน 25 เม็ดได้หลอดกาแฟดังกล่าวจึงเป็นวัสดุที่จะใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเพื่อขาย อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะขายเมทแอมเฟตามีนดังเช่นเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด ที่ขายให้แก่สายลับที่บรรจุไว้ในหลอดกาแฟปิดหัวท้ายมีขนาดเท่ากับที่จำเลยที่ 2ตัดไว้ และหลอดกาแฟที่จำเลยที่ 2 ตัดไว้ในลักษณะเช่นนี้ไม่มีเหตุสงสัยว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ นอกจากใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนเพื่อขายเท่านั้นเอง ทั้งการกระทำของจำเลยที่ 2 ในลักษณะนี้เป็นเครื่องชี้เจตนาให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ทราบว่าหลอดกาแฟที่ตัดมีความยาวเพียงประมาณ1 เซนติเมตรนั้นจะให้จำเลยที่ 1 นำไปใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนเพื่อขายให้แก่ผู้ซื้อดังเช่นที่ขายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงมีเจตนาสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่ 2 จึงฟังไม่ขึ้น…”
พิพากษายืน