แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มอบอำนาจให้ตัวแทนฟ้องขับไล่จำเลย เมื่อคดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย โจทก์ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากตึกที่พิพาท จำเลยยื่นฎีกาแล้วแต่ถอนเสีย เมื่อโจทก์ขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษา จำเลยยื่นคำร้องว่าตัวแทนของโจทก์ได้ตกลงทำสัญญาให้จำเลยเช่าตึกที่พิพาทอยู่ต่อไปจนกว่าจะรื้อถอน แต่โจทก์คัดค้านว่า ตัวแทนโจทก์ทำนอกเหนือจากหนังสือมอบอำนาจ และโจทก์ได้ถอนตัวแทนก่อนวันที่จำเลยอ้างว่าทำสัญญาเช่าแล้ว ดังนี้ จำเลยจะอ้างสัญญาซึ่งทำนอกศาลและโจทก์ปฏิเสธมาเพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่
ย่อยาว
เดิมโจทก์มอบอำนาจให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เป็นตัวแทนฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกที่พิพาท ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา แต่วันรุ่งขึ้นกลับขอถอนฎีกา ศาลฎีกาอนุญาตให้ถอนคดี คดีเปํนอันเสร็จเด็ดขาดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นได้ออกคำบังคับให้จำเลยออกจากตึกที่พิพาทภายใน ๓๐ วัน ต่อมาโจทก์ร้องว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลเรียกจำเลยมาสอบถาม
จำเลยยื่นคำร้องว่า หลังจากจำเลยยื่นฎีกาแล้ว จำเลยได้ตกลงกับบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ตัวแทนโจทก์ โดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยไม่ต่อสู้คดี ยอมถอนฎีกา บริษัทยอมให้จำเลยกับนายอู้เกจองเช่าห้องที่บริษัทจะสร้างขึ้นใหม่ ๑ ห้อง ในราคา ๘๐,๐๐๐ บาท ส่วนตึกที่พิพาท บริษัทให้จำเลยเช่าต่อไปก่อน ถ้าบริษัทต้องการรื้อเมื่อใด จำเลยจะขนย้ายออกไปทันที จำเลยจึงได้ถอนฎีกา บริษัทยังไม่พร้อมจะรื้อ จำเลยเสียค่าเช่าเรื่อยมา จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกที่พิพาทได้โดยอาศัยสิทธิของบริษัทและข้อตกลงดังกล่าว อนึ่งโจทก์ทำสัญญามอบตึกที่พิพาทให้บริษัทครอบครอง เมื่อบริษัทให้จำเลยเช่า เป็นการเช่าใหม่หลังศาลอุทธรณ์พิพากษา โจทก์จะเอาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาบังคับจำเลยไม่ได้
โจทก์แถลงว่า ได้บอกเลิกการมอบอำนาจเป็นตัวแทนต่อบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ก่อนที่บริษัทตกลงให้จำเลยเช่า บริษัททำนอกเหนือจากหนังสือมอบอำนาจ ไม่ผูกพันโจทก์
จำเลยแถลงว่า สัญญาเช่าที่จำเลยอ้างไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่อยู่ที่บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยและบริวารออกไปจากตึกที่พิพาทตามคำบังคับภายใน ๓๐ วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มอบอำนาจให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เฉพาะให้มีอำนาจฟ้องและดำเนินการพิจารณาคดีนี้ รวมทั้งอำนาจประนีประนอมยอมความตลอดจนถอนฟ้องคดีนี้ ฉะนั้นเมื่อคดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายชนะคดีจึงชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๑
ที่จำเลยฎีกาว่า บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ได้ตกลงทำสัญญาให้จำเลยเช่าตึกที่พิพาทอยู่ต่อไปจนกว่าบริษัทจะรื้อถอนนั้น นอกจากจำเลยจะไม่มีสัญญาดังกล่าวมาแสดงแล้ว โจทก์ยังแถลงคัดค้านด้วยว่าบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ทำนอกเหนือจากหนังสือมอบอำนาจ และโจทก์ได้ถอนอำนาจบริษัทจากการเป็นตัวแทนของโจทก์ก่อนวันที่จำเลยอ้างว่าบริษัททำสัญญากับจำเลยแล้ว เมื่อโจทก์ปฏิเสธดังนี้ จำเลยจะอ้างสัญญาดังกล่าวซึ่งทำนอกศาลมาเพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่
พิพากษายืน.