แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสับกันไปโดยนำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์รายหนึ่ง ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์อีกรายหนึ่งเป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลแรงงานกลางผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาย่อมเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง และสำหรับโจทก์ที่ 2 มิได้ขอให้จ่ายดอกเบี้ยมาด้วย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 จึงเป็นการพิพากษาเกินไปจากคำขอของโจทก์เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องในข้อนี้ด้วย
ย่อยาว
เนื่องจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทั้งยี่สิบพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้าง จนกว่าชำระเสร็จ จำเลยทั้งยี่สิบสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ปรากฏว่าสำหรับโจทก์ที่ 9, ที่ 10, ที่ 11, ที่ 12, ที่ 13, และที่ 14 ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสับกันไปโดยนำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 9 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 11 นำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 10 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 12 นำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 11 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 13 นำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 12 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 14 นำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 13 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 9นำค่าจ้างอัตราสุดท้ายของโจทก์ที่ 14 ไปคำนวณเป็นค่าชดเชยของโจทก์ที่ 10 ซึ่งเป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลแรงงานกลางผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง และสำหรับโจทก์ที่ 2 มิได้ขอให้จ่ายดอกเบี้ยมาด้วย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 จึงเป็นการพิพากษาเกินไปจากคำขอของโจทก์เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องในข้อนี้ด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับโจทก์ที่ 9 ที่ 10 ที่ 11 ที่ 12ที่ 13 และที่ 14 ให้ได้รับค่าชดเชยเป็นจำนวนเงิน 23,910 บาท 48,960บาท 45,660 บาท 30,780 บาท 26,640 บาท และ 38,340 บาทตามลำดับ และโจทก์ที่ 2 ไม่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ย