คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 4 และ ธ. เป็นผู้ขอยืมรถจักรยานยนต์และมีดจากจำเลยที่ 3 ที่บ้านจำเลยที่ 3 โดยก่อนขอยืมบุคคลทั้งสองชวนจำเลยที่ 3 ไปปล้นทรัพย์ด้วย จำเลยที่ 3 ปฏิเสธไม่ไป แต่จำเลยที่ 3 ให้บุคคลทั้งสองยืมรถจักรยานยนต์ไปแทน เป็นการให้ยืมโดยรู้ว่าบุคคลทั้งสองจะนำไปใช้ปล้นทรัพย์รายนี้จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83, 59 (ที่ถูก 58), 33 ริบอาวุธมีด ปลอกมีดของกลาง และบวกโทษจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 462/2541 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษในคดีนี้ และให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 28,710 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ แต่จำเลยที่ 1 รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง, 340 ตรี จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง, 340 ตรี ประกอบมาตรา 86 จำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 คนละ 24 ปี จำเลยที่ 3 มีกำหนด 16 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 คนละ 16 ปี จำเลยที่ 3 มีกำหนด 10 ปี 8 เดือน ให้นำโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือน ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 462/2541 ของศาลชั้นต้น มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 16 ปี 6 เดือน ริบอาวุธมีดและปลอกอาวุธมีดของกลาง
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน แต่ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 28,710 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว คดีสำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธมีดและใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ คดีมีปัญหาขึ้นสู่ศาลฎีกาว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์โดยให้จำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตยืมรถจักรยานยนต์และมีดจำนวน 1 เล่ม มาใช้ในการกระทำผิดจริงหรือไม่ เห็นว่า ในบันทึกจับกุมจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 มีรายละเอียดของการกระทำผิดของจำเลยแต่ละคนไว้ โดยจำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตเป็นผู้ขอยืมรถจักรยานยนต์และมีดจากจำเลยที่ 3 ที่บ้านจำเลยที่ 3 โดยก่อนขอยืมจำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตชวนจำเลยที่ 3 ไปปล้นทรัพย์ก่อน เมื่อจำเลยที่ 3 ปฏิเสธไม่ไป จำเลยที่ 3 ให้บุคคลทั้งสองขอยืมรถจักรยานยนต์ไปแทน นอกจากนี้เมื่อจำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตปล้นทรัพย์เสร็จแล้วยังนำเงินมาแบ่งให้จำเลยที่ 3 ใช้อีก 1,000 บาท ต่อมาเมื่อจำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตให้การในชั้นสอบสวนก็ยืนยันเช่นเดียวกับในชั้นจับกุม ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การในชั้นสอบสวนเพิ่มเติมรายละเอียดว่าเหตุที่จำเลยที่ 3 ไม่ไปปล้นทรัพย์ด้วยเนื่องจากจำเลยที่ 3 จะไปบ้านหญิงคนรัก คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนไม่มีเหตุสงสัยว่าจะได้มาโดยไม่ชอบ ที่จำเลยที่ 3 ที่ 4 เบิกความว่า ถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำร้ายร่างกายและถูกใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ เป็นข้อแก้ตัวของจำเลยที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นใหม่ หลังจากใช้เวลาคิดค้นหาข้อต่อสู้เป็นเวลานาน ทำให้รับฟังไม่ได้ พยานโจทก์ที่นำสืบมาฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 4 และนายธวัชชัยหรือโตยืมรถจักรยานยนต์และมีด 1 เล่ม โดยรู้อยู่ว่าบุคคลทั้งสองจะนำไปใช้ปล้นทรัพย์รายนี้จริง ฎีกาจำเลยที่ 3 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share