คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 119,120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า “จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย ” แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 176

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องกล่าวว่า เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๙๓ เวลากลางวัน จำเลยนี้มีมีดขอเป็นสาตราวุธได้บังอาจสมคบกันเข้าทำการขัดขวาง และใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายทวน อัมพรรัตน์ ปลัดอำเภอหนองแคกับพวก ผู้ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะทำการรับวัดที่ดินให้แก่ผู้มีชื่อเพื่อโอนขอรับมรดกที่ดินจากผู้ตายตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย โดยจำเลยมีมีดขอวิ่งเข้าไปทำการห้ามมิให้นายประทวนกับวพกทำการรังวัดที่ดิน และพูดว่าถ้าขืนวัดไปจะมีเรื่อง ทั้งนี้โดยประสงค์จะขัดขวางนายประทวน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย ให้งดเว้นทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๙,๑๒๐
จำเลยทั้งสองรับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริงดังฟ้องโจทก์ทุกประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียง ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๙ ปรับคนละ ๑๖๐ บาท ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๙ คงปรับคนละ ๘๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา ๑๒๐ จำคุกคนละ ๓ เดือนลดตามมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ ๑ เดือน ๑๕ วัน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์ที่บรรยายถึงการกระทำของจำเลยอันมีใจความว่า “จำเลยสมคับกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดิน ตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย ” นั้นการกรทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามมาตรา ๑๒๐ แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๗๖ จึงพิพากษายืน

Share